มัลติเอนไซม์ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยกิจกรรมของเอนไซม์ในกลุ่มเซลลูเลส เพคติเนส และเฮมิเซลลู
เลสที่ทำงานร่วมกันในการย่อยสลายองค์ประกอบของผนังเซลล์เพื่อปลดปล่อยเม็ดแป้งออกมา ซึ่งสามารถถูกย่อยต่อเป็นน้ำตาลได้โดยเอนไซม์ย่อยแป้งดิบ เอนไซม์องค์ประกอบนี้จะทำงานร่วมกันในการย่อยแป้งรวมถึงเซลลูโดลส และเฮมิเซลลูโลสในวัตถุดิบจากมันสำปะหลังประเภทต่างๆเป็นน้ำตาลในขั้นตอนเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องอาศัยความร้อนในการเจลาติไนซ์แปง้ ซึ่งนํ้าตาลที่ไดส้ ามารถนำไปใชใ้ นการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพและสารเคมีต่างๆ ในขั้นตอนต่อไป
จุดเด่นของเทคโนโลยี
• มัลติเอนไซม์ที่พัฒนาขึ้นสามารถย่อยวัตถุดิบจากมันสำปะหลังทุกประเภทเป็นน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยได้ปริมาณน้ำตาล > 80% (>800 mg ของน้ำตาลรีดิวซ์/กรัมของวัตถุดิบโดยน้ำหนักแห้ง) ของค่าที่ได้ทางทฤษฎีภายในเวลา 48 ชั่วโมง ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม
• ไม่ต้องใช้ความร้อนในการเจราติไนซ์ ในวัตถุดิบก่อน จึงเป็นการช่วยลดพลังงานที่ตองใช้ในกระบวนการผลิตและไม่เกิดสารยับยั้งประเภท dehydration product
• สามารถทำงานได้ดีในช่วงอุณหภูมิ 35-50 องศาเซลเซียส และ pH 4-5 ซึ่งเหมาะสมในการพัฒนากระบวนการหมักแบบขั้นตอนเดียวร่วมกับจุลินทรีย์ต่างๆ
• การย่อยแป้งดิบสามารถเกิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกับการย่อยเฮมิเซลลูโลสและเซลลูโลสบางส่วนทำให้ได้ทั้งน้ำตาลกลูโคสและไซโลส
• มีผลในการช่วยลดความหนืด (viscosity) ของวัตถุดิบในระบบการหมัก ทำให้สามารถใช้ได้กับระบบที่ใช้ปริมาณวัตถุดิบสูงได้ (high solid loading fermentation)
ติดต่อเจ้าของผลงานได้ที่
ดร.วีระวัฒน์ แช่มปรีดา
ติดต่อสอบถามข้อมูล
คุณปณิธาน ลีละธนาวิทย์
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
111 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
โทรศัพท์ : 0 2564 6700 ต่อ 3128
โทรสาร : 0 2564 6985
E-mail :
อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน