กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาษาไทยEnglish
หน้าหลัก ข่าวอบรม สัมมนา สนช. จับมือหน่วยงานนโยบายแดนปลาดิบเปิดมุมมองการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0

สนช. จับมือหน่วยงานนโยบายแดนปลาดิบเปิดมุมมองการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0

พิมพ์ PDF

 

            กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. ร่วมมือ Nomura research Institute (NRI) ซึ่งเป็นหน่วยงานอันดับหนึ่งในด้านนโยบายของประเทศญี่ปุ่นจัดงานสัมมนา เรื่อง “The New S-Curve of Industries development in Thailand: Global and Japanese experiences” โดยเน้นมุมมองเรื่องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาลในเรื่อง Industrial 4.0 และ Electrical Vehicle (EV)

 

            ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า “ปัจจุบันทุกประเทศบนโลกมีการเชื่อมต่อกันอย่างไร้พรมแดนในทุกมิติ ทั้งความร่วมมือทางการค้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกิดการแข่งขันสูงขึ้น เหตุผลนี้ทำให้หลายประเทศจำเป็นต้องปรับตัวสู่การพัฒนาในยุคอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองในการแข่งขัน การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งนี้จึงทำให้หลายประเทศต่างตื่นตัวกับผลกระทบที่ติดตามมา รัฐบาลไทยได้ตระหนักถึงผลกระทบเช่นกันจึงประกาศทิศทางของประเทศไทยในอนาคตเรียกว่า “ประเทศไทย 4.0” เพื่อให้ประเทศมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจเดิมไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม”

 

            ผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นได้แสดงข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการขับเคลื่อนของอุตสาหกรรมเป้าหมายดังกล่าวของประเทสชั้นนำของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศยุโรป ประเทศญี่ปุ่น และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้มีนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้อย่างเข้มข้นทั้งการสนับสนุนเชิงนโยบายของภาครัฐ การวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชนชั้นนำของประเทศ เพื่อเร่งให้เกิดความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการสร้างระบบการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้า (Electrical Vehicle; EV) ประเทศตัวอย่างที่สำคัญและมีการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ที่เข้มข้น คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายการสนับสนุนที่เป็นระบบและต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้ให้ข้อเสนอแนะแก่ภาครัฐบาลในการตั้งโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรม EV ของประเทศไทย ได้แก่ การกำหนดวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในระยะยาวและการกำหนดกลยุทธ์ในการสนับสนุนที่สำคัญ การสร้างตลาด (Demand creation) และการแสวงหาพันธมิตรความร่วมมือ

 

            นอกจากนี้ NRI ยังได้นำเสนอถึงโอกาสและความเป็นไปได้ของการพัฒนา Industrial 4.0 ของประเทศไทยอีกด้วย โดย NRI ได้แสดงข้อมูลการขับเคลื่อนนโยบายนี้ของประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นประเทศแรกที่ประกาศให้มีการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เข้าสู่ industrial 4.0 ในปี 2013 และมีเป้าหมายให้ประเทศเยอรมันขยับไปเป็น Next generation manufacturing system ในปี 2036 โดยจะมีการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหลายอย่างเพื่อสนับสนุนนโยบายนี้ ทั้งด้านการพัฒนา Sensor, AI, Data-format และ Communication security ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาให้เกิด industrial 4.0 อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ NRI ยังได้ยกตัวอย่างบริษัท EMAG ประเทศเยอรมัน ที่ได้ปรับเปลี่ยนการพัฒนาบริษัทจากการเป็นผู้ผลิตเครื่องจักร (machinery supplier) มาสู่การเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อภาคการผลิต (parts manufacture) ซึ่งเป็นแนวคิดในการพัฒนาธุรกิจในแนว horizontal Integration ในอุตสาหกรรม hardware แทนการพัฒนาธุรกิจไปในทิศทาง vertical extension อย่างในอดีต ที่มุ่งเน้นการผลิตเครื่องจักรให้มีหลากหลายรุ่นมากขึ้น รวมถึงยกตัวอย่างบริษัท SIEMEN ประเทศเยอรมัน ที่ทำการเข้าซื้อบริษัทด้านซอฟต์แวร์เป็นจำนวนมาก โดยมีการลงทุนซื้อกิจการในบริษัทด้านซอฟต์แวร์ไปกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นจำนวน 350,000 ล้านบาท เพื่อสร้างให้บริษัท SIEMEN สามารถเป็น Integrate Virtual & Real manufacturing IoT ซึ่งการดำเนินงานแบบ horizontal integration ในด้านซอฟต์แวร์นี้ทำให้ SIEMEN ก้าวไปสู่การเป็น total solution provider สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน

 

            NRI ได้ให้ประเด็นของผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงของ IoT ในขณะนี้เกิดจาก 3 ปัจจัย คือ 1. Globalization 2. Standardization/Modularization และ 3. Digitalization นั่นเอง สุดท้ายนี้ NRI ยังได้ผากข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลไทยในการขับเคลื่อนนโยบาย Industrial 4.0 ไว้ดังนี้
 

            1. ประเทศไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการเริ่มขับเคลื่อนนโยบายด้านนี้ เพื่อสร้างให้เป็นต้นแบบการพัฒนาด้าน IoT สำหรับประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียน เนื่องจากประเทศไทยมีความเข้มแข็งด้านบุคลากรและอุตสาหกรรมต่อเนื่องในธุรกิจนี้ที่พร้อมกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

 

            2.ควรส่งเสริมให้เกิดเป็น IoT Industrial Park เพื่อเป็นตัวอย่างการพัฒนาของอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงเป็นต้นแบบของการพัฒนาให้ประเทศต่างๆ ในอาเซียนต่อไป

 

            3. ต้องเข้าใจว่าในอนาคต IoT จะมีอิทธิพลที่สูงมากในการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านโครงสร้างและระบบต่างๆ ของภาคอุตสาหกรรม เพราะปัจจุบันความก้าวหน้าด้านซอฟต์แวร์นั้นเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก 
 

 

 




ข่าวโดย : สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.)

เผยแพร่ข่าวโดย : นางสาวนฤมล รัตนสุวรรณ์

กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732  โทรสาร 0 2333 3834

e-mail :       อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน   Facebook : sciencethailand

Call Center กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.1313

 

 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
» รมว.วท. ปาถกฐาพิเศษบนเวที Special Luncheon ในหัวข้อ Capturing Value on Thailand Innivation
» เสาวนาแก้ไขปัญหาการศึกษาไทย Thailand-Japan Human Resources Development Initiative (Timeline Suthichai )
» โครงการพัฒนางานวิจัยสู่นวัตกรรม
» สนช. เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ “ย่านนวัตกรรมโยธี” นำร่องจับมือสถาบันพยาธิฯ – ดิจิตอล เฮลท์ ดันนวัตกรรมโทรเวชกรรมด้านพยาธิวิทยา
» ก.วิทย์ฯ จัดเวิร์คช็อป ‘นวัตกรรม’ พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกับบริจสโตนและนิสสัน
» กระทรวงวิทย์ สวทช. และ ออโต้เดสก์ ร่วมขยายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการผลิตดิจิทัลในประเทศไทย
» ก.วิทย์ฯ เดินหน้า ‘โมเดลประเทศไทย 4.0’ ร่วมลงนามเอ็มโอยูกับบริษัทซอฟแวร์ยักษ์ใหญ่
หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมวิทยาศาสตร์บริการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน(องค์การมหาชน) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์การมหาชน)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร
หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป