กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาษาไทยEnglish
หน้าหลัก ข่าวสารหน่วยงาน ก.วิทย์ฯ เตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลก!...ด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ

ก.วิทย์ฯ เตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลก!...ด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ

พิมพ์ PDF

ดร.คุณหญิงกัลยา  โสภณพนิช  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศแห่งชาติ  ประจำปี  2551 เรื่อง  “รับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ”  โดยความร่วมมือระหว่าง  สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี   กับ  กรมแผนที่ทหาร  สมาคมสำรวจข้อมูลระยะไกล  และสารสนเทศภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย  สมาคมการสำรวจและการแผนที่  สมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย  สมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย  สมาคมการแผนที่แห่งประเทศไทย  และสมาคมระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะไทย  เมื่อวันที่  21 มกราคม 2552  ณ ห้องแกรนด์คอนเวนชั่น ฮอล 9  ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค  เมืองทองธานี

 

 

            ดร.คุณหญิงกัลยา  โสภณพนิช  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  กล่าวว่า  สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ  กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจัดประชุมวิชาการ ตั้งแต่ปี 2544 ถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นเวทีของผู้สร้างสรรค์ผลงานและเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์  ระหว่างบุคคลที่สนใจและทำการศึกษาวิจัย  เพื่อส่งผลให้ความสามารถที่มีอยู่ได้เพิ่มพูลมากขึ้นในเชิงลึก  และมุมมองในเชิงกว้างอีกด้วย  เนื่องจากมีชาวต่างประเทศมาเข้าร่วมสัมมนาด้วย  การประชุมครั้งนี้  จึงเป็นเวทีสำคัญมากในการนำเสนอผลงานวิจัยและการนำผลงานวิจัยไปสู่ภาคปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม  ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่าทั่วโลกกำลังตื่นตัวและหันมาให้ความสนใจกับปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือ สภาวะโลกร้อน นั้นเอง  และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของโลกในด้านต่าง ๆ ตามมา ในส่วนของประเทศไทย แนวทางและมาตรการต่าง ๆ  ได้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว  เช่น  การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน  ด้านการลดการใช้พลังงาน  การรณรงค์ให้มีการปลูกป่าทดแทน  การสร้างความตระหนักและปลุกจิตสำนึกในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ  รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการวางแผน และสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว  อย่างถูกต้องรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ   จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและสภาพแวดล้อมได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น  อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลกต่อไป 

            นอกจากนี้  ยังเป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยได้ส่งดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติดวงแรก ที่มีชื่อว่า  ดาวเทียมธี-ออส ขึ้นสู่วงโครจรได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อประเทศไทยมีดาวเทียมสำรวจทรัยากรดวงแรกของไทยแล้ว   สามารถนำข้อมูลจากดาวเทียมดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการสำรวจข้อมูลต่าง ๆ  ได้  ซึ่งเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่มีความสำคัญในการนำมาใช้เพื่อศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากร  และสภาพแวดล้อม   ตลอดจนวางแผนป้องกันและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลก   การนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาใช้ทำให้เล็งเห็นประโยชน์และความสำคัญและคุณค่าในการนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาประเทศ รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศไปสู่ระดับเยาวชน และประชาชนทั่วไป  และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนงานด้านนี้อย่างเต็มที่  และต่อเนื่องเพื่อนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าและสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ต่อไป


            ด้าน  ดร.ธงชัย  จารุพพัฒน์  ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ  กล่าวว่า  สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ร่วมกับ 7  หน่วยงาน  ได้แก่  กรมแผนที่ทหาร  สมาคมสำรวจข้อมูลระยะไกลและสารสนเทศภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย  สมาคมการสำรวจและการแผนที่  สมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย  สมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย  สมาคมการแผนที่แห่งประเทศไทย  และสมาคมระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะไทย  จัดการประชุมวิชาการขึ้น  เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้เผยแพร่และนำเสนอผลงานวิชาการด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านภูมิสารสนเทศ   รวมทั้งเสนอความก้าวหน้าเทคโนโลยีใหม่ ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงานและพัฒนาประเทศยิ่งขึ้น  ตลอดจนเปิดโอกาสให้นักเรียนนำเสนอและแข่งขันผลงานโครงการการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมโรงเรียนและท้องถิ่น  อันเป็นการสร้างความตระหนักด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศในระดับเยาวชน  โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ  รวมถึงการประยุต์ใช้ในหลายสาขา  ได้แก่  การเกษตร  ป่าไม้  การใช้ประโยชน์ที่ดิน  ผังเมือง  สิ่งแวดล้อม  และภัยพิบัต  ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน  และสถาบันการศึกษา  ประมาณ  600  คน

            การประชุมดังกล่าว  มีการจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน  ประกอบด้วยหน่วยงานเอกชน  จำนวน 35  แห่ง และหน่วยงานราชการ 30 แห่ง รวมถึงการนำเสนอบทความทางวิชาการเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศด้านทรัพยากรน้ำ  ทรัพยากรป่าไม้  ทรัพยากรดิน  สิ่งแวดล้อม  และภัยพิบัติ  การตั้งถิ่นฐานและผังเมือง  การเกษตรและการใช้ที่ดิน  ตลอดจนการสำรวจและการทำแผนที่โดยนักวิชาการ  นักวิจัย  นิสิตและนักศึกษา   ทั้งนี้จะมีรางวัลสำหรับผู้เสนอบทความดีเด่นอีกด้วย   ส่วนบทความที่นำเสนอในการประชุมวิชาการครั้งนี้มีจำนวน 100 บทความ  โดยแบ่งตามประเภท คือ  ด้านการสำรวจข้อมูลระยะไกล (Remote  Sensing : RS)    ด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic  Information  System : GIS)  ด้านระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกด้วยดาวเทียม ( Global   Postioning  System :  GPS)  ด้านการสำรวจและการทำแผนที่  (Surveying and Mapping)  และด้านมาตรฐานระบบภูมิสารสนเทศ (GIS  Data Standard)   โดยจะผลักดันให้นำผลงานวิจัยไปประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม และนำไปสู่การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาด้านภูมิสารสนเทศและการต่อยอดสิทธิบัตร  รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนได้เรียนรู้  เข้าใจ เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศในการทำโครงงานวิจัย

 

ผู้เขียนข่าว  :  กมลวรรณ  เอมสมบูรณ์
ผู้ตรวจข่าว  :  หัวหน้าประชาสัมพันธ์  สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
» การประชุมวิชาการสวทช.ประจำปี 2559 (NAC 2016) 2 เมษายน 2559
» ดร.พิเชฐพร้อมคณะเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนดรุณสิกขาลัย โรงเรียนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้
» กระทรวงวิทย์ฯ โดย สวทช. จัดงานประชุมวิชาการ 2 งานใหญ่ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
» ก.วิทย์ เร่งทบทวนร่าง พรบ.วท. 9 ฉบับ เพื่อเสนอให้ทันห้วงเวลารัฐบาลและ คสช.
» สดร. จับมือ สสวท. เปิดเวทีนำเสนอโครงงานดาราศาสตร์ระดับโรงเรียน ทั่วประเทศร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
» กระทรวงวิทย์ฯ ดันดาราศาสตร์จัดประชุมวิชาการเพื่อเยาวชนระดับชาติครั้งแรกของไทย
» รมว.วท.เปิดงานจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการ NECTEC ACE 2014 “ตอบโจทย์ประเทศไทย งานวิจัยใช้ได้จริง
หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมวิทยาศาสตร์บริการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน(องค์การมหาชน) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์การมหาชน)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร
หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป