กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาษาไทยEnglish
หน้าหลัก ข่าวสารหน่วยงาน รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ขึ้นเหนือสำรวจปัญหาไฟป่าหมอกควัน เผย 5 มาตรการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำปัจจัยเข้ามาในสมการ เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ขึ้นเหนือสำรวจปัญหาไฟป่าหมอกควัน เผย 5 มาตรการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำปัจจัยเข้ามาในสมการ เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

พิมพ์ PDF

 

 

     18 มีนาคม 2559 ณ โรงแรมดวงตะวันเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ / ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเวทีสัมมนา “วิทยาศาสตร์ลดไฟป่า เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ” ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) จัดระดมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 9 จังหวัดภาคเหนือที่ประสบปัญหาหมอกควันจากไฟป่า พร้อมเผย 5 มาตรการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาไฟป่าและผลกระทบจากหมอกควันอย่างยั่งยืน
 
    รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า เป้าหมายของการสัมมนาคือการระดมความคิดเห็นจากหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ที่ประสบปัญหา เแล้วนำปัจจัยที่เกี่ยวข้องเข้ามาในสมการ เพื่อแก้ปัญหาโดยมีจุดเน้นที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีหลายหน่วยงานที่มีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อาทิ เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม การจัดการเชื้อเพลิง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น และพร้อมที่จะขยายขอบเขตการทำงานเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาให้ครอบคลุมในทุกมิติ นำเทคโนโลยีมาติดตามสถานการณ์ สร้างแรงจูงใจให้เกิดการเผาป่าจะน้อยลง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศษไม้ใบหญ้า
 
     ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เปิดเผยว่า ปีนี้จุดความร้อนหรือฮอตสปอตใน 9 จังหวัดภาคเหนือได้ลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการบูรณาการความร่วมมือของภาครัฐและประชาชน ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้มีการจัดทำมาตรการเร่วด่วน 5 อย่างเพื่อนำเทคโนโลยีอวกาศและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาสนับสนุนการแก้ปัญหาหมอกควันจากไฟป่า ได้แก่ มาตรการที่หนึ่ง คือ การเพิ่มศักยภาพดาวเทียม ให้มีความแม่นยำและเพิ่มความถี่การตรวจจับให้บ่อยครั้งขึ้นเพื่อให้ติดตามและคาดการณ์สถานการณ์ได้ทันท่วงที มาตรการที่สอง คือ การจัดการเชื้อเพลิง โดยนำวัสดุทางการเกษตร จัดทำโซนนิ่งการใช้เชื้อเพลิง ทำแนวกันไฟ ตามข้อมูลความถี่ และจัดทำพื้นที่เสี่ยงการเกิดไฟ มาตรการที่สาม คือ การนำเชื้อเพลิงมาเป็นพลังงานทดแทน เช่น การนำเศษวัสดุทางการเกษตรมาใช้ในโรงไฟฟ้าชีวมวล มาตรการที่สี่ คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเศษซากวัสดุทางการเกษตร และมาตรการสุดท้ายคือการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสามารถของเยาวชนและภาคประชาสังคม
 
      ดร.พิเชฐ กล่าวเสริมอีกว่า “กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มองถึงการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ในการควบคุมปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่เสี่ยง เพื่อลดโอกาสการเกิดไฟป่า และเป็นการเพิ่มรายได้ รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรและท้องถิ่นให้ดีขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการนำวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อการลดไฟป่า เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ อย่างเป็นรูปธรรม 

ข่าวโดย ฝ่ายภาพลักษณ์องค์กรและประชาสัมพันธ์/GISTDA
www.gistda.or.th
www.facebook.com/gistda
Email: อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน
หมายเลขโทรศัพท์ 021414567
 

ประสานงานได้ที่ : กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ภาพข่าว : นายรัฐพล หงสไกร และ นายไววิทย์ ยอดประสิทธิ์

โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732  โทรสาร 0 2333 3834

e-mail :          อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน      

Facebook : sciencethailand

Call Center กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.1313 
 
หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมวิทยาศาสตร์บริการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน(องค์การมหาชน) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์การมหาชน)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร
หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป