ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานแถลงข่าวและพิธีลงนามความร่วมมือ “โครงการหมู่บ้านแม่ข่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเฉลิมพระเกียรติ ต้นแบบโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กสำหรับชุมชน” ดำเนินการพัฒนาพลังงานทดแทนในระดับชุมชน โดยการส่งเสริมการใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ตลอดจนการส่งเสริมการปลูกไม้โตเร็วเพื่อเป็นวัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตไฟฟ้า อันเป็นการสร้างมูลค่าให้แก่ผลิตผลทางการเกษตรในหมู่บ้าน โดย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (อบจ.นครราชสีมา) ณ ห้องราชพฤกษ์ AB ชั้น 2 โรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล จ. นครราชสีมา (เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2552)
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า โครงการหมู่บ้านแม่ข่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเฉลิมพระเกียรติ “ต้นแบบโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กสำหรับชุมชน” เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ต้องการผลักดันให้หมู่บ้านหรือชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้โดยนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อยากเห็นรูปแบบของการพัฒนาพลังงานทดแทนในระดับชุมชน โดยการส่งเสริมการใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ตลอดจนการส่งเสริมการปลูกไม้โตเร็วเพื่อเป็นวัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตไฟฟ้า อันเป็นการสร้างมูลค่าให้แก่ผลิตผลทางการเกษตรในหมู่บ้าน โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและนำไปสู่การพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีหมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 30 หมู่บ้าน แต่ที่จังหวัดนครราชสีมา นี้เป็นการใช้วิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาพลังงานทดแทน โดยได้ประโยชน์ 3 อย่าง ได้แก่ 1. ทำให้ขยะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2. ได้ใช้ไฟฟ้า 3. ความร้อนสามารถนำไปใช้อบผลไม้ได้ และที่สำคัญคือ ได้พื้นที่ปลูกป่าไม้เป็นหมื่นไร่ เพื่อตัดมาทำไฟฟ้า เชื่อว่าเมื่อทำสำเร็จแล้ว อบจ.อื่นๆ จะมาเอาไปเป็นแบบอย่าง จะได้ประโยชน์กับหลายๆ อบจ.อย่างแน่นอน การจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจและข้อตกลงความร่วมมือฯ ระหว่าง 3 หน่วยงาน ในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมพันธสัญญาสำคัญลำดับแรก เปรียบเสมือนเป็นการเปิดประตูเพื่อนำเข้าสู่การดำเนินกิจกรรมทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาของประเทศร่วมกันอย่างเป็นทางการ
![]() |
![]() |
ด้าน ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า กระทรวง วิทยาศาสตร์ฯ ได้มอบหมายให้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ดำเนินโครงการหมู่บ้านแม่ข่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : ต้นแบบโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กสำหรับชุมชน เพื่อสนับสนุให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองในด้านต่าง ๆ ได้ โดยอาศัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โครงการนี้จะเน้นให้ชุมชนสามารถผลิตพลังงานทดแทนขึ้นเอง โดยใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าในท้องถิ่น อันจะนำไปสู่การพึ่งพาตนเองทางด้านพลังงานทดแทนได้ โดยใช้เทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่น ซึ่งเป็นเทคโนโลย่ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และเป็นเทคโนโลยีที่ง่ายไม่ซับซ้อน มีความปลอดภัย สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ อบจ. คือลดมลพิษ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด “โคราชเมืองแห่งพลังงานทดแทน” ที่เน้นการรักษาสภาพทรัพยากรสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืน โดยทั้ง 3 หน่วยได้ทำบันทึกความเข้าใจและข้อตกลงความร่วมมือในการบูรณาการและประสานงาน ให้เกิดกิจกรรมและความร่วมมือปฏิบัติงานพัฒนาด้านพลังงานทดแทน โดยมีขอบเขตร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ดังนี้
กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ 1. การนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้พัฒนาชุมชนต้นแบบ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงในการสร้างงาน สร้างเงิน สร้างคุณภาพชีวิต 2. พัฒนาสังคมในระดับชุมชนให้มีการสร้างงาน สร้างเงิน สร้างคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้น ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน 3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่กลุ่มเป้าหมายทุกระดับ 4. ทำหน้าที่เสนอแนะและให้คำปรึกษาในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ เพื่อการพัฒนาพลังงานทดแทนทั้งในระดับชุมชนและส่วนราชการต่าง ๆ 5. สนับสนุนและส่งเสริมตามแนวทางและวิธีการที่เหมาะสม โดยมุ่งให้ชุมชนเป็นเจ้าของและบริหารจัดการโรงไฟฟ้าชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยอาศัยแหล่งวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่ 6. สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาเครื่องมือ/เครื่องจักรด้านพลังงานทดแทน เช่น เครื่องจักรผลิตพลังงานจากชีวมวล การผลิตไฟฟ้าด้วยระบบแก๊สซิฟิเคชั่น
องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา 1. ประสานหน่วยงานร่วมโครงการ จัดหาสถานที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า 2. ประชาสัมพันธ์โครงการให้ทราบถึงประโยชน์ ข้อดี ข้อเสีย ของการดำเนินการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กสำหรับชุมชน 3.วางแผนบริหารจัดการ การผลิต และจำหน่ายไฟฟ้า ตลอดจนผลประโยชน์ที่ได้จากการผลิตไฟฟ้า 4. รับมอบการถ่ายโอนโรงไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพื่อดำเนินการต่อและดูแลบำรุงรักษา โดยจัดหาบุคลากรที่มีความรู้ทางด้านเทคนิค 5. พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลให้เป็นต้นแบบและศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานทดแทนของจังหวัดนครราชสีมา 6. พัฒนาและขายพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแก่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ส่งเสริมให้ประชาชน เกษตรกรปลูกป่าไม้โตเร็ว
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 1. ศึกษาข้อมูลทั่วไปของพื้นที่เป้าหมาย สำรวจปริมาณหรือสัดส่วนเศษวัสดุทางการเกษตร สำรวจการใช้ประโยชน์วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 2. จัดทำประชาพิจารณ์ เพื่อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมต่อโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 3. ก่อสร้างและเดินระบบโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 100 กิโลวัตต์ 4. ดำเนินการส่งมอบและถ่ายโอนโรงไฟฟ้าให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด พร้อมทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และพี่เลี้ยงในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง 5. จัดฝึกอบรมให้ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ ชุมชนในด้านต่าง ๆ เช่น การปลูกต้นไม้โตเร็วเพื่อจะนำมาเป็นชีวมวล และ 6.ประเมินสรุปผลงานภายหลังเสร็จสิ้นโครงการโดยการแสดงให้เห็นรูปธรรมว่าภายหลังจากการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าไปใช้ในชุมชนแล้ว เกิดการสร้างงาน สร้างเงิน สร้างรายได้ และสร้างคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
![]() |
![]() |
ด้าน นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า อบจ.นครราชสีมา โดยทีมบริหารปัจจุบัน มีนโยบาย 12 ข้อ และ 1ใน 12 ข้อ ได้ประกาศอย่างชัดเจน ในการส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทนในจังหวัดนครราชสีมา ตามแนวคิด “โคราชเมืองแห่งพลังงานทดแทน” เพราะจังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ทางการเกษตรมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ มีเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่ยังไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกมาก เช่น เหง้ามันสำปะหลัง
![]() |
![]() |
เขียนข่าวโดย : นายปราโมทย์ ป้องสุธาธาร โทร. 0-2354-4466 ต่อ 118
โทรสาร 02-354-3763 E-Mail :
อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน
ถ่ายภาพโดย : นายไววิทย์ ยอดประสิทธิ์ โทร. 0-2354-4466 ต่อ 199