กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาษาไทยEnglish
หน้าหลัก ข่าวสารหน่วยงาน สานพลังประชารัฐ ขับเคลื่อนและยกระดับมาตรฐานการศึกษา นำร่องโรงเรียนต้นแบบประชารัฐ 7,424 แห่งทั่วประเทศ

สานพลังประชารัฐ ขับเคลื่อนและยกระดับมาตรฐานการศึกษา นำร่องโรงเรียนต้นแบบประชารัฐ 7,424 แห่งทั่วประเทศ

พิมพ์ PDF

ภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ผนึกความร่วมมือสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ ขับเคลื่อนและยกระดับมาตรฐานการศึกษา นำร่องโรงเรียนต้นแบบประชารัฐ 7,424 แห่ง ทุกตำบล ทั่วประเทศ  

       3 มีนาคม 2559 ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ / ภาครัฐ โดยกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเอกชน นำโดย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และภาคประชาสังคม รวมทั้งสิ้นกว่า 25 องค์กร ร่วมตอบสนองนโยบายประชารัฐ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ โดยมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับมาตรฐานการศึกษาของประเทศในทุกมิติ   ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบสารสนเทศ การเปิดเผยข้อมูลการศึกษา หลักสูตรการเรียนการสอน  การพัฒนาผู้นำสถานศึกษา บุคลากรครู ให้มีคุณลักษณะและสมรรถนะความเป็นผู้นำ ทั้งด้านคุณธรรม   จริยธรรม  ตลอดจนการสร้างแรงจูงใจและกลไกการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง และชุมชน พร้อมนำประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาเทคโนโลยีแห่งอนาคตในระดับภูมิภาค โดยนำร่องพัฒนาโรงเรียนต้นแบบประชารัฐ ทุกตำบล 7,424 แห่ง ก่อนขยายผลต่อไปทั่วประเทศ มั่นใจสามารถวางรากฐานการศึกษาของประเทศให้มั่นคงยื่งขึ้น  ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ  และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ของการพัฒนาประเทศ

 

      ดร.สมคิด กล่าวว่า การศึกษาไทยในปัจจุบันยังคงมุ่งเน้นการผลิตคนและหลักสูตรที่จัดทำออกมาไม่ได้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของตลาดโลกและคนในชนบท ทำให้คนเหล่านั้นก้าวจากสังคมชนบทไปตั้งหลักแหล่งในสังคมเมืองแทนที่จะกลับไปพัฒนาท้องถิ่นตนเอง เหตุที่ต้องมีการปฏิรูปการศึกษาไทยก็เพราะพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยให้เข้มแข็งขึ้น ทันโลก พร้อมทั้งส่งเสริมศักยภาพและคุณภาพของผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ในทุกวิชา ในขณะที่การเรียนการสอนต้องมีการอบรมบ่มนิสัย ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและภูมิปัญญาไทยอย่างเพียงพอ เพื่อลดการเกิดความเลื่อมล้ำในการเข้ารับการศึกษาตลอดจนเชื่อมโยงและการบริหารจัดการศึกษาไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วันนี้ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันจัดงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอนาคตของชาติ ฉะนั้น การสร้างทรัพยากรมนุษย์ทางด้านการศึกษาไทยต้องมุ่งสร้างคน สร้างงาน สร้างชาติ เป็นการศึกษาแบบองค์รวม บูรณาการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ศาสนา การเมือง และควรส่งเสริมจริยธรรมให้รักชาติ ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตน มีความเป็นผู้นำ อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

      พลเอก ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าทีมภาครัฐ กล่าวว่า การพัฒนาการศึกษาเป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งปัจจุบันการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทยยังประสบปัญหาอยู่หลายด้าน อาทิ การจัดทำหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ในสถานศึกษา ครูบางส่วนขาดเทคนิคการสอน ปัญหาการขาดแคลนครู ครูไม่ครบชั้นในโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนบางแห่งสามารถเข้าถึงสื่อสาระการเรียนรู้ได้อย่างจำกัด ผู้บริหารสถานศึกษาบางส่วนยังไม่สามารถบริหารโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ กระทรวงศึกษาธิการเป็นองค์กรขนาดใหญ่ การเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไปทำได้ช้า การที่รัฐบาลมีโครงการความร่วมมือประชารัฐด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนที่สำคัญ เช่น การระดมสมอง ทรัพยากร และสรรพกำลัง จากทุกภาคส่วนมาช่วยกันพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศักยภาพของโรงเรียน การให้ทุกโรงเรียนมีโครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วและความเสถียร เพื่อให้สามารถเข้าถึงสาระการเรียนรู้ที่มีอยู่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสำรวจความต้องการทรัพยากรที่จำเป็นในการยกระดับการศึกษา ซึ่งทั้งภาครัฐ เอกชน และที่สำคัญภาคประชาสังคม จะได้ร่วมกันให้กันสนับสนุนต่อไป โดยภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่มาช่วยสนับสนุนในครั้งนี้ นอกจากเป็นการช่วยเหลือสังคมแล้ว รัฐก็จะสนับสนุนในเรื่องการลดหย่อนภาษีด้วย  ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการและภาคเอกชนได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ร่วมดำเนินการแบบเต็มเวลาเพื่อขับเคลื่อนภารกิจนี้โดยเฉพาะ ขณะเดียวกันในระดับพื้นที่ กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการในทุกเขตพื้นที่จำนวน 225 ศูนย์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นที่ปรึกษา และพร้อมที่จะเชิญทุกภาคส่วน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานประชารัฐด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำอีกด้วย

.

       ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า บทบาทของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ต่อโครงการประชารัฐนี้ ได้แก่ การจัดทำและเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษาในรูปแบบออนไลน์ และเรียลไทม์ การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการศึกษาและการบริหารจัดการสื่อ การติดตั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อวางรากฐานระบบสื่อสารให้แก่โรงเรียน ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ก็จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น

 

       นางสาวเสาวณี มุสิแดง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ในฐานะกระทรวงที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาคนเพื่อพัฒนาประเทศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ โดยสนับสนุนการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์รอบตัว การสร้างกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน การสร้างนักวิทยาศาสตร์ ตลอดจนมุ่งเน้นที่จะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนงานวิจัย ที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง

 

      นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน กล่าวว่า ภาคเอกชนขอขอบคุณภาครัฐเป็นอย่างยิ่งที่เปิดโอกาสให้เข้าร่วมพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้โครงการประชารัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ ซึ่งถือเป็นฐานหลักของการพัฒนาประเทศ พร้อมขอขอบคุณภาคประชาสังคม และภาคเอกชนทุกองค์กรที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง ด้วยการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ จะส่งผลต่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และความเจริญในด้านต่างๆ ที่ผ่านมาภาคเอกชนหลายหน่วยงาน รวมทั้งกลุ่มทรูเอง ต่างให้ความสำคัญในเรื่องของการศึกษา และได้ดำเนินการสนับสนุนภาครัฐด้วยการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาการศึกษาของประเทศในหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาโรงเรียน ครู ผู้นำสถานศึกษา หลักสูตร คู่มือการสอน จนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ การลงนามความร่วมมือครั้งนี้จึงนับเป็นนิมิตหมายที่ดีของวงการศึกษาไทย ในการรวบรวมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ที่ต่างมีเจตนารมณ์สอดคล้องกันในการมุ่งมั่นสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการประชารัฐ เข้ามารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน  ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถยกระดับการศึกษาของประเทศให้เป็นจริงได้  ภายใต้คณะทำงานกลุ่มย่อย ที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชียวชาญด้านการศึกษาจากภาคส่วนต่างๆ มาร่วมกำหนดทิศทางกรอบการพัฒนาในทุกมิติ รวมทั้งการจัดทำโครงสร้างการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม 10 กรอบหลัก ได้แก่ 1) พัฒนาระบบข้อมูลการศึกษา ของโรงเรียนที่เปิดเผยสู่สาธารณะซึ่งจะเปิดโอกาสให้ ผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงานต่างๆ และภาคเอกชนที่สนใจสามารถพิจารณาสนับสนุน และติดตามผลได้อย่างใกล้ชิด (Transparency & Monitoring & Evaluation) 2) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อให้สถานศึกษาได้เข้าถึงองค์ความรู้ และมาตรฐานการศึกษาจากทั่วโลก (Digital Infrastructure & High Standard Education Accessibility) 3) พัฒนาหลักสูตร การเรียนการสอน  การรวบรวมสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบอีเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการนำต้นแบบผลสัมฤทธิ์ของ การจัดการเรียนการสอนจากสถาบันชั้นนำ มาปรับใช้ในโรงเรียน (Curriculum, Teaching Technique & Manual) 4) จัดการเรียนการสอนที่ฝึกให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง รู้จักคิดวิเคราะห์ และส่งเสริม คุณธรรม จริยธรรม และการมีจิตสาธารณะ (Health, Heart & Ethics) 5) ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำและธรรมาภิบาลของผู้บริหารถานศึกษา และพัฒนาครูผู้สอนให้เป็นผู้แนะนำและอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง (High Quality Principles & Teachers Leadership) 6) สร้างแรงจูงใจให้กับผู้ปกครองและชุมชน ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สำคัญ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน (Market Mechanism Engagement Parent & Community / Funds) 7) เชิญชวนสถาบันการศึกษาและบุคคลากรทางการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ที่มีความเชี่ยวชาญ เข้าร่วมพัฒนาการศึกษา (Local & International Teachers & University Partnership & Incentive) 8) ยกระดับทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษของนักเรียน (English Language Capacity) 9) พัฒนาและส่งเสริมผู้นำรุ่นใหม่ เข้าร่วมพัฒนาโรงเรียน (Young Leadership Development) 10) การเตรียมหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในการร่วมพัฒนาศูนย์การศึกษาเทคโนโลยีแห่งอนาคต ในระดับภูมิภาค เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนงานงานวิจัยที่สอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง (Technology Megatrends Hub & R&D)

        ทั้งนี้ ความร่วมมือในการยกระดับการศึกษาของประเทศ จะเป็นการดำเนินการในลักษณะของการเป็นพันธมิตรกับโรงเรียน ซึ่งภาคเอกชนและภาคประชาสังคมจะนำกำลังคนซึ่งเป็นผู้นำรุ่นใหม่ เข้าร่วมลงพื้นที่สำรวจและวางแผนการดำเนินงานพัฒนาโรงเรียนอย่างใกล้ชิดด้วยความสนับสนุนของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และคุณค่าให้แก่นักเรียนและชุมชนได้อย่างแท้จริง

 

 

 
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3727 - 3732  โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : sciencethailand
Call Center กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.1313

                            

 

 

 
หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมวิทยาศาสตร์บริการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน(องค์การมหาชน) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์การมหาชน)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร
หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป