กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาษาไทยEnglish
หน้าหลัก ข่าวสารหน่วยงาน กรมโรงงานฯ ผนึก สวทช. ตรวจสอบโรงงานทั่วประเทศนำงานวิจัยช่วยแก้ปัญหา เตรียมอัดฉีดสูงสุดรายละ 4 แสนบาท พร้อมเปิดตัวโครงการ ก้าวกระโดดประเทศไทย เพื่อพัฒนาไปสู่ศูนย์วิจัยระดับอาเซียน

กรมโรงงานฯ ผนึก สวทช. ตรวจสอบโรงงานทั่วประเทศนำงานวิจัยช่วยแก้ปัญหา เตรียมอัดฉีดสูงสุดรายละ 4 แสนบาท พร้อมเปิดตัวโครงการ ก้าวกระโดดประเทศไทย เพื่อพัฒนาไปสู่ศูนย์วิจัยระดับอาเซียน

พิมพ์ PDF

 

          กรุงเทพฯ - 5 กุมภาพันธ์ 2559 กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยกระดับอุตสาหกรรมไทยอย่างก้าวกระโดด ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) เรื่อง "ก้าวกระโดดประเทศไทย (Thailand Spring Up) ยกระดับเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มมูลค่าของกากอุตสาหกรรมให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม" มุ่งเน้นนำโจทย์ความต้องการจากภาคอุตสาหกรรมมาสู่การทำวิจัย สนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม สร้างโอกาสของการเข้าถึงของอุตสาหกรรมในบริการของรัฐตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อพัฒนาให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดในการยกระดับเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และพลังงานให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม โดยตั้งเป้า 2 ปีแรก จะส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการโรงงานอย่างน้อย 100 ราย พร้อมสนับสนุนค่าใช้จ่ายรายละไม่เกิน 400,000 บาท คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนให้ภาคอุตสาหกรรมไทย 7.5 เท่าของการลงทุน

          นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนออุตสาหกรรมเป้าหมายสำหรับขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth) ต่อรัฐบาลใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านอุตสาหกรรมของประเทศนั้น การจะยกระดับสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้จะต้องเน้นการวางรากฐานทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านการวิจัยและพัฒนา (R&D) เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งในปี 2557 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีมูลค่า GDP เป็นอันดับที่ 32 ของโลก ซึ่งภาคอุตสาหกรรมมีส่วนสำคัญโดยช่วยสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมถึงร้อยละ 34 ส่งผลให้มีมูลค่า GDP ภาคอุตสาหกรรมอยู่ในอันดับที่ 30 ของโลก และอยู่ในอันดับที่ 5 ของกลุ่มประเทศอาเซียน+3 จัดอยู่ในประเภทที่มีขีดความสามารถ แต่ภาคอุตสาหกรรมไทยยังคงผลิตเพื่อการส่งออก และยังคงพึ่งพิงเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากต่างประเทศเป็นหลัก ทำให้ขีดความสามารถด้านอุตสาหกรรมของไทยไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยเหตุนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงนำโจทย์ความต้องการจากภาคอุตสาหกรรมมาสู่การทำวิจัย แล้วสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยสู่ภาคอุตสาหกรรม โดยมอบหมายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ผนึกกำลังกับ สวทช. โดยการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "ก้าวกระโดดประเทศไทย (Thailand Spring Up) ยกระดับเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มมูลค่าของกากอุตสาหกรรมให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม" พร้อมดันไทยสู่ศูนย์กลางวิจัยและพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมของอาเซียน ซึ่งยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และสร้างโอกาสการเข้าถึงของอุตสาหกรรมในบริการของรัฐ ตามนโยบายของรัฐบาล ส่งผลต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

   

           นายพานิช เหล่าศิริรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งกับ SME เพื่อให้เป็นแกนหลักเศรษฐกิจของประเทศในการก้าวข้ามกับดักของประเทศรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) ซึ่งเมื่อกล่าวถึง SME โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ความสนใจเบื้องต้นจะเป็นเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) ผลิตภาพ (Productivity) และผลิตผล (Product) ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะมีบทบาทในการรับ SME ต่อจากการสนับสนุนการพัฒนาด้านการผลิตขั้นพื้นฐานจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนให้ SME ได้มีการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต มีการปรับปรุงและเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม ทำให้ SME มีต้นทุนการผลิตที่สามารถแข่งขันได้ และมีการสร้างนวัตกรรมจากฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ SME แบบก้าวกระโดด ส่งออกได้มากขึ้น สามารถแข่งขันได้ในระดับอาเซียนและระดับโลก และก้าวมาเป็นแกนหลักที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลต่อการจ้างแรงงาน การกระจายรายได้สู่ภูมิภาค และชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น

   
   

           เมื่อกล่าวถึงการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม สิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้คือ ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม สังคมและชุมชนใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็น เสียง กลิ่น ควัน น้ำเสีย และอื่นๆ หากมีการจัดการที่ไม่เหมาะสม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของประเทศ ทั้งด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การพัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถช่วยลดหรือแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ ยังอาจช่วยให้ SME สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ หากมีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น การนำพลังงานความร้อนที่สูญเสียกลับมาใช้ใหม่ การออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสม การลดการใช้สารเคมี หรือการนำกากของเสียมาใช้ประโยชน์เพิ่มมูลค่า ผลที่ได้รับนอกจากจะเกิดต่อ SME แล้วยังส่งผลที่ดีต่อสังคมและชุมชนใกล้เคียงด้วย สำหรับความร่วมมือในวันนี้นับเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่จะช่วยนำการสนับสนุนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งด้านกำลังคน และองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหรือบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย พลังงาน และการจัดการกากของเสีย เพื่อช่วยเสริมภารกิจของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในการสนับสนุนให้ SME โดยเฉพาะภาคการผลิตที่มีการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ให้เติบโตโดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนไทย เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นับเป็นโอกาสอันดีที่สองกระทรวงผนึกกำลังร่วมสร้างอุตสาหกรรมสีเขียว ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้ SME ไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

  

         ด้าน นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบัน กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายที่ต้องการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมยกระดับการบริหารจัดการ ให้มุ่งเน้นบทบาทในการเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การร่วมมือครั้งนี้ กรมโรงงานฯ จะผลักดันให้เพิ่มการนำเทคโนโลยีไปใช้ในการพัฒนา หรือปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมทั้งกระบวนการกำจัดกากของเสีย โดยสนับสนุนให้เกิดการทำวิจัยและพัฒนาร่วมกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยผ่านกลไกทั้งการให้คำปรึกษาแนะนำ การบริหารการผลิต ปรับปรุงกระบวนการผลิต และวิเคราะห์ทดสอบ รวมถึงการอบรมสัมมนาและการจัดหาทรัพยากรสนับสนุนที่จำเป็น ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมไทยเพื่อแข่งขันกับระดับสากลต่อไป โดยในส่วนของ สวทช. จะให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้ที่มีความพร้อมและความมุ่งมั่นตั้งใจเข้าร่วมโครงการสำหรับส่งเสริมการพัฒนา โดยตั้งเป้าใน 2 ปี จะมีผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 100 ราย คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ภาคอุตสาหกรรมไทย 7.5 เท่าจากการลงทุน

    

           นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีบทบาทในการให้ความรู้พร้อมเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกับภาคอุตสาหกรรม ช่วยเหลือ SME ไทยได้อย่างรอบด้าน เพื่อพัฒนาให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งนักวิชาการของ สวทช. จะทำหน้าที่แก้ไขปัญหาโดยนำปัญหามาวิจัยและพัฒนาต่อยอดให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งนี้จะได้รับความร่วมมือผ่านโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (Innovation and Technology Assistance Program: ITAP) ของ สวทช. ที่ให้บริการภาคอุตสาหกรรมในการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งยกระดับเทคโนโลยีการผลิต เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย พลังงาน และกากอุตสาหกรรมให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม จึงเป็นที่มาของการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการดังกล่าว

  
   

 

 

 

สื่อมวลชนติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

โทร. 66-(02)-564-7000 ต่อ 71731, 71727, 1162  หรือ ลัญจนา (089-128-5004) วีระวุฒิ (081-614-4465)

อีเมล์ อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน

 

กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม

โทร. 66-(02)-202-4000 และ 3967  โทรสาร 66-(02)-354-3390

 

ภาพข่าว : นายรัฐพล หงสไกร และ นายไววิทย์ ยอดประสิทธิ์

กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3727 - 3732  โทรสาร 0 2333 3834

E-mail : อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน

Facebook : sciencethailand

Call Center กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.1313

 

 
หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมวิทยาศาสตร์บริการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน(องค์การมหาชน) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์การมหาชน)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร
หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป