20 มกราคม 2559 ณ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ / ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดตัว “คูปองวิทย์เพื่อโอทอป” เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์โอทอปทั้งประเทศ โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) สอดรับกับมาตรการโอทอป 2.0 ใน 6 ด้าน คือ พัฒนาคุณภาพวัตถุดิบ กระบวนการผลิต ออกแบบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ มาตรฐาน บรรจุภัณฑ์ และเครื่องจักร ครอบคลุมทุกกลุ่มตั้งแต่กลุ่มโอทอปสตาร์ทอัพ กลุ่มโอทอปปัจจุบัน และกลุ่มโอทอปที่ต้องการก้าวไปสู่เอสเอ็มอี ซึ่งจะเริ่มดำเนินการ มกราคม 2559 นี้
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีเป้าหมายที่จะลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีของผู้ประกอบการโอทอปทั่วประเทศ และต้องการสนับสนุนการยกระดับโอทอปให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค โดยอาศัยประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาเชิงเทคนิค องค์ความรู้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี นวัตกรรม เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ และการจัดช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ (e-market place) สำหรับผลิตภัณฑ์
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า “คูปองวิทย์เพื่อโอทอป” จะดำเนินการโดยหลายหน่วยงานในกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวง (สป.) กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศ (วว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สนช.) รวมถึงเครือข่ายการทำงานในต่างจังหวัดทั้งอุทยานวิทยาศาสตร์และคลินิกเทคโนโลยี ที่กระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ และสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของผู้ประกอบการโอทอปอีกด้วย
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
รมว.วิทยาศาสตร์ กล่าวต่อว่า คูปองวิทย์เพื่อโอทอป จะมอบให้ผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ในการให้มีที่ปรึกษาและแผนพัฒนาโอทอปตามความต้องการ ภายใต้วงเงิน 300,000 – 500,000 บาท ต่อปีต่อราย โดยผู้ประกอบการจะร่วมลงทุนด้วย ตั้งแต่ 30% - 70% ขึ้นอยู่กับบริการและจำนวนการจ้างงาน ปัจจุบันมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวนมาก และยังมีอยู่ต่อเนื่อง จึงได้ขยายเวลาการสมัครออกไปจนถึงเดือนมีนาคม 2559 ซึ่งคาดว่าจะช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์โอทอปได้มากกว่า 200 ผลิตภัณฑ์ และจะยังคงเปิดรับสมัครต่อเนื่องในรอบปีงบประมาณถัดไป
“คูปองวิทย์เพื่อโอทอป จะช่วยพัฒนาความเข้มแข็งของประเทศจากภายใน ให้เศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเข้มแข็ง โดยคาดว่า ในปี 2560 จะเกิดกลุ่มโอทอปใหม่ 330 ราย โอทอปที่เป็นนวัตกรรม 310 ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์โอทอปจะได้รับการยกระดับมาตรฐาน 620 ชิ้น เกิดโอทอประดับเอสเอ็มอี 105 ราย และสามารถส่งออกได้ 20 ราย ผลิตภัณฑ์โอทอปที่พัฒนาด้วย วทน. จะทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อราย และสามารถขายเชิงพาณิชย์ร้อยละ 30 ทั้งนี้ คาดการณ์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจฐานรากประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อปี” ดร.พิเชฐ กล่าวสรุป
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ด้าน รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า คูปองวิทย์เพื่อโอทอป ได้สนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ OTOP วิสาหกิจชุมชน โดยการนำ วทน. ไปใช้ในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ กระบวนการผลิต ระบบมาตรฐานและการออกแบบเครื่องจักร รวมถึงพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบต้นน้ำที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้าและบริการ โดยเฉพาะในสาขาที่ตอบสนองต่อทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยกลุ่มเป้าหมายของ โครงการประกอบไปด้วย 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม Start Up กลุ่ม Existing และกลุ่ม Growth
นอกจากนี้ ยังมีกลไกของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่จะต่อยอดสนับสนุนผู้ประกอบการในการขยายการผลิต เช่น การสนับสนุนเงินทุนให้เปล่าภายใต้โครงการ “ทุนเครือข่ายวิสาหกิจนวัตกรรม” ของ สนช. การสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย iTAP ของ สวทช. และการสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ STIM ของ วว.
ข้อมูลโดย : โดยสำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สส.)
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)