![]() |
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำหนดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในวันที่ 27 มีนาคม ณ สวนประดิพัทธ์แห่งที่ 2 อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และได้มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ร่วมกับกระทรวงต่างๆ จัดนิทรรศการด้านนวัตกรรม โดยมีเป้าหมาย 3 ประการ คือ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีรับทราบความก้าวหน้าผลงานนวัตกรรมฝีมือคนไทย ซึ่งมีศักยภาพที่จะผลิตเพื่อส่งมอบให้กับตลาดภาครัฐได้ อันจะนำไปสู่การส่งเสริมให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างสินค้านวัตกรรมไทยของภาครัฐ เพื่อให้ SMEs ได้ใช้กลไกของรัฐ ประการที่สองคือ เพื่อพัฒนาศักยภาพและความสามารถในการผลิตนวัตกรรม รวมทั้งได้เลือกนวัตกรรมที่มีความพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ SMEs ที่สนใจ และสุดท้ายคือเพื่อให้ชุมชน/ท้องถิ่นมองเห็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีเพื่อไปพัฒนาความสามารถของท้องถิ่น อันจะก่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย
ในการจัดนิทรรศการนั้น ประกอบด้วย 7 ธีมหลัก ได้แก่ 1. เกษตรและชุมชน 2. น้ำ 3. การแพทย์และสมุนไพร 4. ความมั่นคง พลังงานและสิ่งแวดล้อม 5.ระบบขนส่งทางราง 6.ท่องเที่ยววิถีไทย และ 7. SMEs และการส่งเสริมการส่งออก นอกจากนี้ ยังจัดให้มีหน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) และธนาคารออมสิน ธนาคารของรัฐ ที่เป็นกลไกส่งเสริม SMEs เพื่อรับขึ้นทะเบียน รวมไปถึงการบริการต่างๆ เช่น สินเชื่อเพื่อนวัตกรรมด้วย ดร.พิเชฐ กล่าว
รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวถึงผลงานนวัตกรรมเด่นๆ ที่นำมาจัดแสดงในงานว่า มี 310 ชิ้นที่เป็นผลงานวิจัยของคนไทย อาทิ รถตัดอ้อย ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงกระบวนการผลิตรถตัดอ้อยด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง สามารถตัดอ้อยได้ทุกสภาพแปลงกลไกชุดเก็บเกี่ยวมีประสิทธิภาพไม่ทำให้เกิดการดึงต้นอ้อยจากพื้นดิน ไม่ส่งผลกระทบต่อตออ้อยที่สอง ซึ่งบริษัทเอกชนไทยผู้ผลิตรถตัดอ้อยนี้ สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศ ได้แก่ บราซิล อินเดีย กัมพูชา และอินโดนีเซีย เครื่องเกี่ยวนวดข้าว เป็นเครื่องที่ผลิตโดยคนไทย มีแรงม้าตั้งแต่ 250-280 แรงม้า
ราคาขายประมาณ 2.5 - 2.8 ล้านบาท สามารถวิ่งในนาหล่มได้ เมื่อเกี่ยวนวดข้าวแล้ว การสูญเสียไม่เกิน 3 % ขนาดรถประมาณ 5x10 เมตร ซึ่งจะสามารถทดแทนการนำเข้าได้ ยูนิตทำฟันใช้พลังงานลมนิวเมติค ทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้า และยังได้ต่อยอดนวัตกรรม โดยประดิษฐ์เก้าอี้ทำฟันสำหรับผู้พิการและคนชรา เสื้อเกราะ
กันกระสุน ที่สามารถป้องกันกระสุนระดับ 3A ทำจากวัสดุคอมโพสิต ผสมเส้นใยโพลิเอทิลีนและเส้นใยอะรามิด ร่วมกับวัสดุผสมอื่นๆ ได้มีการยิงทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันกระสุนระดับ 3A ตามมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้ประชาชนได้ชมทั้ง 7 ธีม เช่น เครื่องคัดแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวในครัวเรือน แขนคนพิการ กะโหลกศรีษะเทียม จีโนมการแพทย์ เตาชีวมวล นวัตกรรมการจัดการน้ำ ฟิล์มบรรจุภัณฑ์ยืดอายุผลไม้ เครื่องสำอางนาโนเทคโนโลยี เภสัชรังสี ฯลฯ
สำหรับการจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้นั้น จัดขึ้น 2 วัน คือวันที่ 27-28 มีนาคม เวลา 9.00 – 17.00 น.ซึ่งเป็นความร่วมมือของกระทรวงต่างๆ ที่จะนำเสนอผลงานนวัตกรรมไทย ที่มีศักยภาพ และพร้อมใช้ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตลาดทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1313 หรือสายด่วนกลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ 02-333-3728