เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 เวลา 16.30 น. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 52 ปี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ณ ห้องประชุมรัฐมนตรี ชั้น 2 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนี้
ปัจจุบัน การนำรังสีมาใช้ในด้านต่างๆ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก อาทิเช่น ด้านการเกษตร สามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงพันธุ์พืช, กำจัดเชื้อโรค, กำจัดแมลง พัฒนาการใช้รังสีในผลิตภัณฑ์ด้านการแพทย์ และพัฒนาการใช้รังสีในเครื่องมือการขุดเจาะสำรวจน้ำมัน หรือเครื่องมือในการสำรวจรังสีต่างๆ ซึ่งคาดการณ์ว่าในระยะเวลาไม่เกิน 3-5 ปี จะมีแนวโน้มการใช้รังสีด้านการเกษตร และด้านอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากเมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยจะมีการนำสินค้า วัสดุ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้รังสีต่างๆเคลื่อนย้ายไปสู่กลุ่มอาเซียนมากขึ้น จากการตั้งด่านสกัดหรือตรวจสอบรังสีต่างๆ รวมถึงตั้งศูนย์ในการตรวจจับรังสีทางอากาศ หรือทางน้ำ เพื่อป้องกันสารรังสีต่างๆ ที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน และจากชุมชน กลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้สารรังสี หรือผู้ครอบครองสารรังสีต่างๆ และเมื่อเกิดเหตุจะมีหน่วยปฏิบัติการเข้าตรวจสอบและระงับเหตุโดยทันที
ในปัจจุบันกลุ่มรังสีที่มีการอนุญาตให้นำมาใช้ในประเทศไทย คือ กลุ่มรังสีที่มีความปลอดภัยสูง และผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด รวมถึงการออกใบอนุญาต ซึ่งในขณะนี้การนำรังสีมาใช้เพื่อทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก การดำเนินงานของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) จะเป็นการนำรังสีไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ รังสีที่นำมาใช้นั้นจะประกอบไปด้วย รังสีแกมม่า รังสีเอ็กซเรย์ จัดเป็นรังสีที่มีความปลอดภัยสูงแตกต่างจากรังสีภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้ให้ความสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัยจากรังสี จึงได้มีการวางมาตรการควบคุมกำกับการใช้สารรังสีภายในประเทศอย่างเข้มงวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน จึงได้มีการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของรังสี โดยผลักดันให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เร่งดำเนินการติดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังภัยทางรังสีในอากาศ และในน้ำให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการนำพลังงานนิวเคลียร์ มาใช้ทางการเกษตร อุตสาหกรรม การแพทย์ และการขุดเจาะน้ำมันต่างๆ และได้วางมาตรฐานการควบคุมป้องกันการรั่วไหลของรังสีจากภายในประเทศไทยสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
โนโอกาสครบรอบ 52 ปี ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าวันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศลำดับแนวหน้าเรื่องรังสีปรมาณูในภูมิภาคอาเซียน โดยมี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ทำหน้าที่ควบคุมการใช้รังสีได้อย่างมีมาตรฐานในระดับสากล
เขียนข่าว : นางสาวชลธิชา แสงเทียนสุวรรณ
ถ่ายภาพ : นายพิริยะ เผ่าพงษา
เผยแพร่ข่าว : นางสาวนีรนุช ตามศักดิ์
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร. 02 333 3700 ต่อ 3728-3732