กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาษาไทยEnglish
หน้าหลัก ข่าวสารหน่วยงาน ก.วิทย์ฯ โดย วว. จับมือ ปตท. นำองค์ความรู้สู่เชิงพาณิชย์วิจัยสาหร่ายน้ำมัน พลังงานทางเลือกในอนาคต

ก.วิทย์ฯ โดย วว. จับมือ ปตท. นำองค์ความรู้สู่เชิงพาณิชย์วิจัยสาหร่ายน้ำมัน พลังงานทางเลือกในอนาคต

พิมพ์ PDF

 

 

 

          วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2554)  เวลา 13.30 น.  ณ ห้องโถงนิทรรศการ  อาคารวิจัยและพัฒนา 1   สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  เทคโนธานี  คลองห้า  จ.ปทุมธานี  ดร.วีระชัย  วีระเมธีกุล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  เป็นประธานในงานแถลงข่าว  มหัศจรรย์แห่งสาหร่าย...แหล่งพลังงานและอาหารเพื่ออนาคต  พร้อมด้วยนางเกษมศรี  หอมชื่น  ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  และ ดร.กันย์   กังวานสายชล  นักวิจัย ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและเชื้อเพลิงทางเลือก สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. และผู้จัดการเครือข่ายวิจัยพลังงานจากสาหร่ายขนาดเล็กแห่งประเทศไทย (คพท.) ร่วมแถลงข่าว

 

 

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)    ร่วมกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  แถลงงานวิจัยคัดเลือกสายพันธุ์สาหร่ายน้ำมันด้วยเทคนิคการย้อมสีแห่งแรกของไทย ระบุเป็นการวิจัยสาหร่ายผลิตน้ำมันอย่างก้าวกระโดด เพื่อเป็นพลังงานทดแทนในอนาคตรวดเร็วขึ้น  เผยเป็นคลังสาหร่ายน้ำจืดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย  เตรียมความพร้อมพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสุขภาพ   ช่วยบำบัดน้ำเสียและลดโลกร้อน  ครบวงจรสายการผลิตของภาคอุตสาหกรรม

           

ดร.วีระชัย  วีระเมธีกุล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  เปิดเผยว่า " ตอนนี้ เราได้ประสบผลสำเร็จในการใช้เทคนิคย้อม สีไนล์ เรด (Nile Red staining) เพื่อคัดเลือกสายพันธุ์สาหร่ายที่ผลิตน้ำมันได้รวดเร็วเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยปัจจุบันพบว่ามีสาหร่ายสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของไทยแล้วกว่า 40 สายพันธุ์ และจากนี้ต่อไปจะนำสาหร่ายสายพันธุ์ดังกล่าวมาขยายผลในระบบการเพาะเลี้ยงกลางแจ้งต่อไป ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพื่อวิจัยพัฒนาไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ได้จริง  ส่วนปัญหาที่หลายคนเป็นห่วงว่าการวิจัยพัฒนาด้านพลังงานทดแทน อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคเพราะทำให้ราคาปาล์ม มันสำปะหลัง อ้อย มีราคาสูงขึ้น แต่ตรงนั้นเป็นเพราะใช้พืชอาหาร ส่วนตรงนี้เป็นการใช้พืชพลังงาน คือ ส่าหร่าย ก็จะไม่ส่งผลกระทบดังกล่าว” 

          ด้าน นางเกษมศรี  หอมชื่น  ผู้ว่าการ วว.  ชี้แจงว่า  วว. สั่งสมประสบการณ์วิจัยและพัฒนาด้านสาหร่ายมาเป็นเวลากว่า 25 ปี มีคลังสาหร่ายขนาดใหญ่ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเอเชียรองจากประเทศญี่ปุ่นและจีน มีคลังสาหร่ายเก็บรักษาสายพันธุ์สาหร่ายที่แยกจากระบบนิเวศต่างๆ ของประเทศไทยกว่า 1,000 สายพันธุ์ และมีระบบการเพาะเลี้ยงสาหร่ายระดับขยายกลางแจ้งต้นแบบ ตั้งแต่ขนาด 100
10,000 ลิตร รวมทั้งมีนักวิชาการและทีมงานที่เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในการวิจัยพัฒนาด้านสาหร่าย  ทั้งในระดับห้องปฏิบัติการและภาคสนาม ทำให้มีข้อได้เปรียบสูงด้านการคัดเลือกหาสายพันธุ์ที่เหมาะสมที่สุดในการต่อยอดงานวิจัยแขนงต่างๆ โดยมีผลงานเป็นรูปธรรมทั้งด้านองค์ความรู้และผลิตภัณฑ์แปรรูปหลากหลายชนิด โดยมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ภาคเอกชนในการนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ อันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างยั่งยืน   

           ทั้งนี้  วว.  ดำเนินการวิจัยและพัฒนาด้านสาหร่ายตามอนุสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ และประสบผลสำเร็จในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หลายชนิด ได้แก่ (1) อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ในการเป็นที่ตั้งของคลังสาหร่ายขนาดใหญ่ เพื่อการอนุรักษ์นอกถิ่นกำเนิด  และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และพัฒนาสาหร่ายมุกหยดเพื่อเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ  (2) อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านด้านการเป็นทะเลทราย โดยการพัฒนาสาหร่ายเป้นผลิตภัณฑ์การเกษตรในรูปแบบปุ๋ยชีวภาพและวัสดุปรับ ปรุงดิน  และ (3) อนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  โดยการผลิตพลังงานจากสาหร่ายด้วยกระบวนการผลิตโดยใช้ของเสีย  ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์  นำเสีย  และการผลิตผลิตภัณฑ์ร่วมเพื่อก่อให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ 

 

 

ด้าน  ดร.กันย์  กังวานสายชล   นักวิจัย ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและเชื้อเพลิงทางเลือก สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. และผู้จัดการเครือข่ายวิจัยพลังงานจากสาหร่ายขนาดเล็กแห่งประเทศไทย (คพท.) กล่าวว่า  ภายหลังจากที่ วว. คัดเลือกสายพันธุ์สาหร่ายที่ผลิตน้ำมันและพัฒนาการเพาะเลี้ยงในระดับขยายเชิงพาณิชย์กลางแจ้งแล้ว  ในส่วนของน้ำมันที่ได้ ปตท. จะนำไปวิเคราะห์คุณสมบัติและพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆตามความเหมาะสมในการใช้งานต่อไป 


          ทั้งนี้ ปตท. สนับสนุนทุนวิจัยจำนวน 140 ล้านบาทในการดำเนินโครงการ ภายใต้การดำเนินงานของ เครือข่ายวิจัยพลังงานจากสาหร่ายขนาดเล็กแห่งประเทศไทย (คพท.) โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 7 ปี (พ.ศ.2551-2558) มีเป้าหมายเชิงพาณิชย์เพื่อให้ต้นทุนของน้ำมันจากสาหร่ายน้อยกว่า 150 เหรียญต่อบาเรล และเป้าหมายเชิงเทคนิคให้สาหร่ายมีผลผลิตสูงกว่า 30 กรัมต่อตารางเมตรต่อวัน และมีปริมาณน้ำมันประมาณ 40% หรือสามารถคิดเป็นผลผลิตน้ำมันสาหร่ายประมาณ 6 ตันน้ำมันต่อไร่ต่อปี ไม่รวมผลิตภัณฑ์พลอยได้ จำพวกโปรตีนคุณภาพสูง สารสกัดจำพวกกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งในเบื้องต้นมีการประเมินต้นทุนการผลิต ซึ่งมวลสาหร่ายอยู่ที่ประมาณ 200 บาทต่อกิโลกรัมน้ำหนักแห้ง โดยมีปริมาณน้ำมันที่ 20-30% ของสาหร่ายแห้ง ซึ่งยังคงเป็นต้นทุนการผลิตน้ำมันที่สูงอยู่
 

           

         
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผลงานวิจัยและพัฒนาด้านสาหร่ายของ วว. ได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้า วว. โทร. 0 2579 3000  หรือที่ โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 ในวันและเวลาราชการ  www.tistr.or.th  E-mail : อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน

 

 

ข่าวโดย        : นางสาวอุษา  ขุนเปีย
ถ่ายภาพโดย  :  นายชัชวาลย์  โบสุวรรณ
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์  โทร. 0 2333 3732

 

          

 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
» กลิ่นหอมจากพืช...มาเป็นน้ำหอมได้อย่างไร
» วว. โชว์ผลิตภัณฑ์บำรุงสมองเสริมความจำ MDmate ในงานแถลงข่าวมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2016
» ก.วิทย์ จับมือ ก.คลัง เปิดช่องทางใหม่ให้เอกชนรับรองโครงการวิจัยด้วยตนเอง เพื่อใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300% ได้สะดวก รวดเร็ว และหนุนการทำวิจัยเพิ่มมากขึ้น
» ร่วมค้นหาขุมทรัพย์ STI
» วว.ร่วมแสดงความยินดี บ.รักษ์บ้านเรา ผู้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีปุ๋ยอินทรีย์ ได้รับคัดเลือกไปดูงานเศรษฐกิจสีเขียวในต่างประเทศ
» ก.วิทย์ฯ ยกระดับโอทอปด้วย วทน. (STI for OTOP Upgrade) จังหวัดขอนแก่น
» “53 ปี” แห่งการสถาปนา วว. เราคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จของท่าน
หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมวิทยาศาสตร์บริการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน(องค์การมหาชน) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์การมหาชน)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร
หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป