![]() |
![]() |
ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีมอบเสื้อเกราะป้องกันกระสุนแบบแข็ง ที่เกิดจากงานวิจัยและพัฒนาของศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค/สวทช.) ให้แก่ พลโท วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 จำนวน 47 ตัว เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคง และร่วมปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดที่แพร่ระบาดอย่างหนักช่วงนี้
![]() |
![]() |
ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการที่จะช่วยรักษาชีวิตของพี่น้องทหารหาญของเราในการปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะทางกองทัพภาคที่ 3 เรื่องการพัฒนาเสื้อเกราะกันกระสุนแบบแข็งนี้ เราได้ทำมาระยะหนึ่งแล้ว เราได้ทำการวิจัยและพัฒนาโดยรุ่นที่หนึ่งได้ส่งมอบไปแล้ว โดยเรานำไปมอบทั้งทหารตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหลังจากนั้นเราก็ได้ทำการปรับปรุงพัฒนาจนเกิดวันนี้ขึ้นมาที่เรานำมาส่งมอบกองทัพภาคที่ 3 วันนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ 2 เทคโนโลยีหลักที่นำมาใช้ในการผลิตคือเซรามิกส์อลูมินา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาเสื้อเกราะนี้ มีน้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม แต่เราต้องใช้หน้าและหลังก็จะมีน้ำหนักรวมกัน 8 กิโลกรัม หนาประมาณ 4 ซ.ม. สามารถที่จะรับภัยคลุกครามได้ถึงระดับ 3A เช่นปืน M16 รุ่นที่ 2 ที่นำมามอบที่นี่ เนื่องจากเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด และถ้าเราติดตามข่าวจะทราบว่าทางกองทัพภาคที่ 3 มีบทบาทค่อนข้างสำคัญ เนื่องจากมีพื้นที่ชายแดนยาวกว่า 2000 กิโลเมตร ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเป็นแหล่งขนถ่ายยาเสพติดที่สำคัญ เป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมเราจึงนำเสื้อเกราะมามอบให้กองทัพภาคที่ 3 เสื้อเกราะตัวนี้มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง และราคาต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับการนำเข้าจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังมีภารกิจที่จะส่งเสริมการทำวิจัยในเรื่องเหล่านี้อีกหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่นเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เครื่องจำหน้าบุคคล และเครื่องแปลภาษามลายูหรือชนกลุ่มน้อยต่างๆ
![]() |
ด้าน ดร.วีระศักดิ์ อุดมกิจเดชา ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค/สวทช.) กล่าวว่า ส่วนประกอบแผ่นเกราะกันกระสุน ประกอบด้วย แผ่นกระจายแรง และแผ่นดูดซับแรง ซึ่งแผ่นกระจายแรงทำจากเซรามิกส์ชนิดอลูมินานำมาหุ้มประกอบกับโลหะอะลูมิเนียมและเส้นใยเคฟลาร์ความหนาแน่นสูง ทำหน้าที่ดูดซับแรงและช่วยเก็บสะเก็ดไม่ให้เป็นอันตราย โดยแผ่นเกราะแข็งมีลักษณะเป็นแผ่นโค้งที่ออกแบบให้รองรับกับสรีระของคนไทย ซึ่งแผ่นกระจายแรงที่อยู่ด้านนอกจะทำหน้าที่ทำลายหัวกระสุน ด้วยคุณสมบัติของวัสดุเซรามิกส์ที่เบาและแข็ง สามารถทำลายหัวกระสุนที่มีความเร็วสูงให้แตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ได้ และความแข็งช่วยให้กระจายแรงได้ดี ทั้งนี้ เสื้อเกราะกันกระสุนคุณภาพสูงดังกล่าว มีน้ำหนักเพียง 8 กิโลกรัม มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า เพราะสามารถทนต่อความชื่นและแสงแดดได้ดีกว่า เสื้อเกราะที่นำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีราคาที่ถูกกว่าการนำเข้าเกือบเท่าตัว นอกจากนี้ เสื้อเกราะกันกระสุนดังกล่าว ผ่านการทดสอบคุณภาพจากกองพลาธิการและสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วว่ามีประสิทธิภาพการป้องกันภัยของเกราะบุคคลในระดับ 3A (ยิงด้วยกระสุน .44 แม็คนั่ม และ M855) และมีประสิทธิภาพในระดับ 3 (ยิงด้วยกระสุน 7.62) เมื่อใช้ร่วมกับเสื้อเกราะอ่อน 3A ตามมาตรฐาน NU (National Institute of Justice) ของสหรัฐอเมริกา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ เอ็มเทคยังมีโครงการวิจัยอื่นที่มีการต่อยอดจากโครงการดังกล่าว เพื่อเลือกใช้วัสดุเซรามิกส์ที่เบากว่า แต่มีความแข็งแรงเท่ากับอลูมินา เพื่อนำไปทำเป็นเกราะสำหรับงานประเภทอื่นนอกเหนือจากเสื้อเกราะป้องกันกระสุน
ผู้เขียนข่าว : นายปราโมทย์ ป้องสุธาธาร กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โทร. 02 333 3700 ต่อ 3728