![]() |
|
![]() |
![]() |
ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานร่วมในงานแถลงข่าว ความก้าวหน้าโครงการรีไซเคิลลำไยค้างสต๊อค โดยใช้เป็นพลังงานชีวมวล “ผลสำเร็จการบดลำไยหน้าโกดัง” ณ ห้องโถงชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2553 เวลา 15.30 น. โดยมี รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ผศ.ดร.รังสรรค์ ทองทา อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี คุณณรงค์ สกุลศิริรัตน์ อุปนายกสมาคมเครื่องจักรกลไทย แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ร่วมงาน
ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงแนวคิดในการแก้ปัญหาลำไยค้างสต๊อค ว่า ปีที่ผ่านมาลำไยในประเทศไทย 80-90% จะนำส่งขายในประเทศจีน ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ เรื่องของคุณภาพ การปลอมปนระหว่างลำไยเก่าและลำไยใหม่ ทำให้ราคาลำไยตกต่ำลงส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง ดังนั้น การรีไซเคิลลำไยจึงเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ วิธีการมี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรก คือ การบดทำลายลำไย ซึ่งขั้นตอนนี้ทำสำเร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปอยู่ในระหว่างการดำเนินการคือ การนำลำไยที่บดแห้งแล้วอัดเป็นแท่งพลังงานชีวมวล ตรงนี้สามารถนำไปขายได้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ด้าน นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม เพราะปัญหานี้มีมาตั้งแต่ ปี 2546-2547 พี่น้องเกษตรกรก็มีปัญหาหนัก ผู้บริโภคก็เป็นกังวลว่าจะได้บริโภคลำไยสดที่เก็บได้ในปีนี้หรือเป็นลำไยเก่าที่ปลอมปน ทางหน่วยงานของกระทรวงเกษตร โดยเฉพาะ อตก. หรือที่โกดังสินค้า มีปัญหาในการบริหารจัดการ ฉะนั้น การที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ได้ช่วยในการดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ โดยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรด้วย จึงถือว่าเป็นการร่วมมือกันอย่างบูรณาการที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนมาก กระทรวงเกษตรฯ ขอขอบคุณกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้
ผศ.ดร.รังสรรค์ ทองทา สืบค้า อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) กล่าวว่า ในช่วงแรกได้มีการเตรียมการทดสอบเครื่องมือโดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมเครื่องจักรกลไทย และได้รับความร่วมมืออย่างดี จากพี่น้องเกษตรกร อตก. ในการสำรวจโกดัง สื่อมวลชนทุกท่านที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องเกษตรกรถึงความตั้งใจของ มทส. ที่จะทำเรื่องนี้ อย่างการติดตั้งเทคโนโลยี RSID , GPRS PACKING เพื่อให้งานนี้ออกมาสามารถตรวจสอบได้ รัดกุม ยกตัวอย่างรถขนลำไยก็ติด GPRS เพื่อติดตามว่ารถขนลำไยไปในเส้นทางใด เพื่อป้องกันการสูญหายระหว่างทาง สำหรับการดำเนินงานของ มทส. สามารถบดลำไยได้ 36 ล้านกิโลกรัมจากทั้งหมด 46 ล้านกิโลกรัม กิโลเฟส 2 ที่กำลังดำเนินการอยู่ คือ อัดแท่งลำไยชีวมวล มีสถานที่พักลำไยบด 2 ที่ ที่จังหวัดลำพูนและจังหวัดสระบุรี กำลังการผลิตวันละ 250 ตันต่อที่ และได้ตกลงจำหน่ายแท่งชีวมวลเชื้อเพลิงกับภาคอุตสาหกรรม คือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) โดยจะนำไปใช้ที่โรงงานแก่งคอยและท่าหลวง
ด้าน คุณณรงค์ สกุลศิริรัตน์ อุปนายกสมาคมเครื่องจักรกลไทย เปิดเผยว่า การดำเนินงานของสมาคมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีเสถียรภาพ โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับอุตสาหกรรมประยุกต์ใช้ในการทำงานจนบรรลุผลสำเร็จ และกำลังเริ่มติดตั้งชุดหัวเผาอัจฉริยะสำหรับใช้ในโรงงานอบลำไยของเกษตรกร เมื่อทดลองใช้แล้วผลเป็นที่พอใจ เพราะแต่เดิมชุมชนใช้ไม้ท่อนใหญ่เป็นเชื้อเพลิงทำให้เกิดมลภาวะควัน ต้องหาผู้เชี่ยวชาญในการป้อนเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง 24 ชม. แต่เมื่อได้พัฒนาหัวเผาอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่าชุมชนที่ได้ทดลองกับเรามีความพึงพอใจอย่างมาก จึงมีประโยชน์ต่อชุมชนอย่างมาก
ผู้เขียนข่าว : นางสาวอุษา ขุนเปีย กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ โทร 0 2333 3700 ต่อ 3732
ถ่ายภาพโดย : นางสาวสุนิสา ภาคเพียร กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ โทร 0 2333 3700 ต่อ 3732