![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
{audio}/files/1768.mp3{/audio}
ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ก่อนเข้าทำงานในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
วันนี้ เวลา 14.30 น. ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ภายหลังเดินทางถึงกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
“ ผมขอแสดงความรู้สึกในใจของผมในการมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดีใจที่ได้มีโอกาสมาทำงานที่กระทรวงนี้ ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีลักษณะเป็นนักวิชาการ คิดว่าก็เหมาะสมกับบุคลิกของผม
แนวทางการทำงานของผมต่อไปในอนาคตขอเรียนอย่างนี้นะครับ แรกสุดต้องขอขอบคุณ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ได้สานงานต่อในเรื่องของ “โครงการพระราชดำริ” ซึ่งเรื่องนี้ ผมจะถือว่าเป็นเรื่องแรก และเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุดในการทำงานของผมต่อไปในอนาคต โครงการพระราชดำริที่สำคัญๆ ที่ทางกระทรวงวิทย์ฯ ทำอยู่มีหลายโครงการ ยกตัวอย่าง อย่างเช่น เรื่องของน้ำ หรือ เรื่องไอที ของสมเด็จพระเทพฯ แต่ขออนุญาตไม่ลงในรายละเอียด แต่จะมอบเป็นแนวทางให้ท่านเห็นว่าทิศทางการทำงานของกระทรวงวิทย์ฯ ที่ผมกับท่านปลัด จะดำเนินการต่อไปว่ามีเรื่องอะไรบ้าง
นอกจากนี้ ยังมีอีก 3 เรื่องที่ผมมีความตั้งใจที่จะทำ คือ เรื่องแรก เรื่องของการใช้ “วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ผมตั้งใจจะใช้องค์ความรู้ทางด้านนี้เพื่อเป็นพื้นฐานในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความสำคัญของประเทศ ท่านก็เห็นอยู่แล้วนะครับว่าทางกระทรวงวิทย์ฯ ก็เคยจัดการดำเนินการในโครงการลำดับต้นๆ ให้ท่านดูนะครับ
แต่ผมมี 3 เรื่องที่ผมให้ความสนใจเป็นพิเศษ เรื่องแรกก็คือ เรื่อง “เกษตร” เรื่องที่สองก็คือเรื่องของ “อาหาร” เรื่องที่สามคือ เรื่อง “พลังงานทดแทน” ซึ่งจริงๆ ในสามเรื่องนี้ ท่านจะสามารถพูดเป็นเรื่องเดียวกันก็ได้ หรือจะพูดเป็นสามเรื่องก็ได้ ผมตั้งใจจะนำความรู้ ประสบการณ์ของผมที่ผมมีในภาคธุรกิจรวมถึงงานที่ผมเคยทำในทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพาณิชย์ เกษตรพาณิชย์ คลัง ต่างประเทศ มาประยุกต์ใช้ในการทำงานของผมตรงนี้ โครงการที่สำคัญๆ มีหลายโครงการตอนนี้ที่ทำอยู่ผมก็สานงานต่อ
เรื่องที่สอง ที่ผมอยากจะทำก็คือเรื่องที่ว่า ผมอยากจะเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงไปให้ถึงโรงเรียน ลงไปให้ถึงเด็ก และเยาวชน โครงการต่างๆ อย่างเช่น เรื่อง คลินิกเทคโนโลยี ห้องเรียน ห้องสมุดวิทยาศาสตร์ก็ตอนนี้ทำอยู่ ก็จะสานงานต่อ ซึ่งเรื่องนี้ในความรู้สึกของผม ผมคิดว่า เป็นเรื่องที่ท้าทาย คือ จะทำยังไงให้เด็กๆ สนุก กับการเรียน และในขณะเดียวกันได้พื้นฐานทางความรู้ที่เค้าจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต
เรื่องสุดท้ายที่ผมจะให้ความสำคัญ คือ เรื่องที่ผมจะต้องนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลงไปให้ถึงชุมชน ลงไปให้ถึงชนบท ลงให้ถึงต่างจังหวัด ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก และถ้าสมมติว่า เราทำได้ ผมคิดว่าเราจะเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในแผนการปรองดอง 5 ข้อ ของท่านนายกรัฐมนตรี ที่จะพยายามลดเรื่องความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาความยากจน โครงการต่างๆ ที่ทางกระทรวงทำอยู่ในเรื่องนี้ ผมจะปรึกษาหารือต่อไป เพราะคิดว่าอาจจะต้องมีการปรับแผนงาน โครงการอะไรต่างๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันด้วย ผมคิดว่าตอนนี้ทางกระทรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทยนี้นะครับกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องคงจะต้องพยายามปรับแผนการดำเนินการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันให้มากยิ่งขึ้น ผมคงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมามีอะไร ผมคิดว่าตอนนี้เราก้าวผ่านตรงนั้นไปแล้ว สิ่งที่จะทำก็คือ ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคนใหม่ ผมจะพยายามดูแลตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบตรงนี้เท่าที่สามารถทำได้ ก็หลักๆนะครับ โครงการพระราชดำริ วิทยาศาสตร์นะครับมาช่วยพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ ตรงนี้ ผมเรียนนิดหนึ่งนะครับว่าผมคงไม่ได้ละเลยในมิติอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในทางด้านสังคม หรือทางด้านความมั่นคง หรือสังคม ยกตัวอย่าง อย่างโครงการเรื่องโลกร้อน อันนี้เราทำต่อแน่ ความมั่นคงหรืออะไรก็ทำต่อ
ทั้งนี้ การที่จะใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจตรงนี้ ถามว่าเศรษฐกิจเราจะขับเคลื่อนได้อย่างไร ในอนาคตต้องมีองค์ความรู้ คุณจะเรียกเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ หรือจะเรียกเศรษฐกิจอะไรก็แล้วแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานขององค์ความรู้ องค์ความรู้ที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน ผมว่าหนีไม่พ้น เรื่องวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพราะฉะนั้น ผมตั้งใจจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งก็บังเอิญโชคดีที่ทางผู้บริหารของกระทรวงก็เห็นด้วยและมองไปในทิศทางนี้เหมือนกัน ในกรณีของผม ผมอาจจะมีประสบการณ์ที่ทำงานในกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจมาหลายกระทรวง ผมคิดว่าสิ่งนี้จะสามารถช่วยได้ ”
เขียนข่าวโดย : นางสาวอุษา ขุนเปีย กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ โทร 0 2333 3700 ต่อ 3732
ภาพข่าวโดย : นางสาวสุนิสา ภาคเพียร กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ โทร 02-333-3700 ต่อ 3732
อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน