กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาษาไทยEnglish
หน้าหลัก ข่าวสารหน่วยงาน รีไซเคิลลำไยใกล้ความจริง ก.วิทย์ฯ เร่งมือก่อนปิดโครงการต้นเดือน พ.ค.

รีไซเคิลลำไยใกล้ความจริง ก.วิทย์ฯ เร่งมือก่อนปิดโครงการต้นเดือน พ.ค.

พิมพ์ PDF

          เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการทำลายลำไยอบแห้งปี 2546 และ 2547  จำนวน 46,800  ตัน โดยการนำไปรีไซเคิลเป็นพลังงานชีวมวล  ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2552 เป็นต้นมา และตามข้อตกกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ  จะต้องทำการบดทำลายลำไยหน้าโกดังทั้ง 60 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 5 เดือน หรือ 150 วัน แล้วนั้น 
 
ความคืบหน้าล่าสุดได้รับการเปิดเผยจาก ดร.วีระพงษ์  แพสุวรรณ รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ  ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารโครงการรีไซเคิลลำไยฯ ว่า  “นับจากวันแรกที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เริ่มบดลำไยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2552  จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2553 รวมเวลา 113 วัน  ได้ทำการบดลำไยหน้าโกดังแล้ว จำนวน 37,962 ตัน คิดเป็น 81% ของลำไยทั้งหมด โดยขณะนี้เหลือลำไยอีก 7 โกดัง หรืออีกประมาณ 1 หมื่นตัน ก็จะดำเนินการแล้วเสร็จตามข้อตกลง  ซึ่งหากนับเวลาที่เหลือจากนี้ไปคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาหรืออุปสรรค เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการประเมินสถานการณ์และปรับแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เสร็จทันภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2553 โดยจะหยุดดำเนินการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประมาณ 10 วัน”

ด้านกระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้สำนักงาน อ.ต.ก. เป็นผู้ควบคุมดูแลโครงการฯ และส่งมอบลำไยอบแห้งเพื่อทำลายให้กับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ  ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประสานความร่วมมือกันเป็นอย่างดี  โดยเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2553 คณะอนุกรรมการควบคุมกำกับดูแลการดำเนินการทำลายลำไยอบแห้งปี 2546 และปี 2547 นำโดยนายโอวาท  อภิบาลภูวนารถ รองผู้อำนวยการ อ.ต.ก.(ธุรกิจเกษตร) และประธานอนุกรรมการฯ พร้อมผู้แทนกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และคณะ  ได้เดินทางไปสำรวจโกดังเก็บลำไยค้างสต๊อค ณ คลังสินค้าสหกรณ์โคนมการเกษตรไชยปราการ  อ.ไชยปราการ    จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบและประเมินสภาพลำไยและรับฟังปัญหาที่พบในบางพื้นที่ ทั้งนี้ หลังการสำรวจคลังสินค้าแล้ว ได้มีการจัดประชุมคณะอนุกรรมการฯ ที่ อ.ต.ก.เขต 7 เชียงใหม่ 
โดยนายโอวาท อภิบาลภูวนารถ เปิดเผยว่า “การเข้าไปตรวจสอบสภาพลำไยล่วงหน้าถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ อ.ต.ก. ต้องดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ก่อนนำเครื่องจักรเข้าดำเนินการ ซึ่งหากพบปัญหา อ.ต.ก. ก็จะมีระบบการทำงานตามขั้นตอน กล่าวคือ

-    กรณีพบปัญหาเรื่องน้ำหนักลำไยที่มีความแตกต่างกันอันเกิดจากผลกระทบ อาทิ ภาวะ     น้ำท่วม  ขึ้นรา  หนูกัดแทะ  เหล่านี้ให้ถือเป็นน้ำหนักสูญหายที่สามารถรับได้ และจะมีน้ำหนักมาตรฐานรองรับ
-    กรณีพบลำไยสูญหาย หรือมีสิ่งปลอมปนในกล่องลำไย เจ้าหน้าที่ อ.ต.ก. ต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน โดยเจ้าของโกดังต้องเป็นผู้รับผิดชอบและหากตกลงกันได้ก็จะพยายามให้จบปัญหาภายใน 1 วัน เพื่อเดินหน้าต่อได้ แต่หากพบปัญหาที่ตกลงกันไม่ได้ในทันทีทาง อ.ต.ก.จะต้องสรุปปัญหาและนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ของกระทรวงเกษตรฯ คือคณะกรรมการบริหารจัดการและทำลายลำไยอบแห้งปี 2546 และปี 2547 พิจารณา
ดังนั้น  ในช่วงก่อนวันหยุดสงกรานต์นี้ ทาง อ.ต.ก.ได้เร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจสภาพลำไยในโกดังที่เหลือประมาณ 10 โกดัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งคาดหวังว่าคงไม่พบปัญหาและจะดำเนินการไปได้อย่างราบรื่น ต่อไปจนจบโครงการ” นายโอวาท กล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลข่าวโดย : เทียรทอง ใจสำราญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ   สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
 

 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
» กระทรวงวิทย์ฯ ยึดมั่นคำสัญญา เดินหน้ามอบเครื่องบดชีวมวลครบทุกพื้นที่
» อ.ต.ก. มั่นใจกระทรวงวิทย์ฯ รีไซเคิลลำไยค้างสต๊อค เสร็จทันเวลา
» “พิธีมอบรางวัลสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2551”
» กระทรวงวิทย์ฯ ตระหนักด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมจากการรีไซเคิลลำไยฯ จัดเสวนาสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนภาคเหนือ
» ชาวลำพูนพร้อมต่อยอดโครงการรีไซเคิลลำไยค้างสต๊อค ดันหมู่บ้านต้นแบบนวัตกรรมลำไย เสนอกระทรวงวิทย์ฯ
» เทคโนโลยีที่นำมาใช้กับโครงการ รีไซเคิลลำไยค้างสต๊อคปี 2546 และ 2547 โดยใช้เป็นพลังงานชีวมวล
» ปลัดกระทรวงวิทย์ฯ ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการรีไซเคิลลำไยค้างสต๊อค เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2553
หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมวิทยาศาสตร์บริการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน(องค์การมหาชน) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์การมหาชน)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร
หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป