(7 พฤษภาคม 2553) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) สสนก.จัดเสวนา คุยกัน..ฉันท์วิทย์ เรื่อง “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านทรัพยากรน้ำและทรัพยากรป่าไม้” ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ดร.รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) และพลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ร่วมให้ความรู้ มีผู้ร่วมงานกว่า 70 คน
![]() |
![]() |
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การเสวนา คุยกัน..ฉันท์วิทย์ ในครั้งนี้เป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสมหามงคลบรมราชาภิเษกปีที่ 60 จึงได้นำเรื่องการบริหารจัดการน้ำในชุมชน ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ สสนก. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการบริหารจัดการน้ำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และได้นำโครงการบ้านลิ่มทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ไปเป็นโครงการตัวอย่างของชุมชนที่เข้มแข็งในการบริหารจัดการน้ำด้วยตัวเอง จนกระทั้งมูลนิธิโค้กให้การสนับสนุนเกี่ยวกับบริหารจัดการน้ำหรือการแก้ไขปัญหาน้ำ เพราะน้ำมีความสำคัญต่อการเกษตรและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ดังนั้นกระทรวงวิทยาศาสตร์ จึงได้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ ในการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น อยู่กับครอบครัวทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่น มีงาน มีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
![]() |
![]() |
พลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง กล่าวว่า สิ่งที่เราควรจะทำ คือ ทำงานถวายพระองค์ การนำแนวคิดของพระองค์ท่านไปปฏิบัติ ผู้ที่จะได้รับประโยชน์ก์คือ ประชาชน เราต้องเข้าใจทั้งดิน ป่าและน้ำ จุดเริ่มต้นที่เราน้อมนำพระราชดำริเรื่องการนำน้ำมาใช้กับชุมชน อาทิ โครงการแก้มลิง หลักเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ ขั้น2 และ 3 เราจะทำได้อย่างไร ใช้ทุนแค่ไหน และชาวบ้านจะดูแลต่อไปอย่างไร ผลที่ได้รับสุดท้ายพบว่าชาวบ้านเริ่มจัดการน้ำเป็น รายได้ก็เพิ่มขึ้น 5 เท่า และเงินลงทุนน้อยกว่าปกติ
![]() |
![]() |
โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แบ่งได้ 6 ด้าน คือ ด้านน้ำ ด้านดิน ด้านเกษตร ด้านพลังงานทดแทน ด้านป่าไม้ และด้านสิ่งแวดล้อม ทั้ง 6 กลุ่ม จะประมาณ 4,000 กว่าโครงการ 70 % เป็นโครงการน้ำและป่า พระองค์ท่านมีพระปรีชาสามารถและมองการไกลกับพสกนิกรชาวไทย เราจะสืบสานความคิดของในหลวงได้อย่างไร จะว่าหน่วยงานของเราไม่ทันในหลวงก็ได้ ที่ว่าไม่ทันความคิดหรือแนวพระราชดำริของในหลวงเลย วันนี้บ้านเราเหมือนจะเป็นวิกฤต แต่เป็นโอกาสที่ประชาชนกับราชการต้องร่วมมือกันดำเนินการตามแนวพระราชดำริพระองค์ท่าน เพื่อสืบสานแนวพระราชดำริที่จะให้ประเทศชาติของเรามั่นคงต่อไปโดยเฉพาะ ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งทั่วโลกกำลังจะขาดแค้นต่อไปในอนาคต คือ น้ำ ผมเชื่อว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นองค์กรสำคัญอันหนึ่งที่จะช่วยเรื่องน้ำได้ ยกตัวอย่างชุมชนบางบัว ที่บางเขน ชาวชุมชนบางบัวได้รวมกลุ่มกันแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ณ วันนี้คลองบางบัวน้ำสะอาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความยังยืนขึ้น องค์กรชุมชนกับน้ำและวิทยาศาสตร์ขาดกันไม่ได้ แต่องค์กรชุมชนไม่มีวิทยาศาสตร์เข้าช่วยก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต้องเกื้อกูซึ่งกันและกันไม่เช่นนั้นก็ไม่เกิดผล ขณะนี้ผู้มาดูงานที่บางบัว 20 ประเทศ ที่ห้วยทราย จ. เพชรบุรีเป็นทะเลทรายไปแล้ว ในหลวงทรงตรัส “ฉันขอคืนฉันจะทำให้ดู” ขณะนี้โครงการพระราชดำริที่ห้วยทราย เป็นแหล่งเกษตร เป็นแหล่งทำน้ำ และเป็นแหล่งให้ความรู้กับทุกภาคส่วน
![]() |
![]() |
พลเอกสุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีลุ่มน้ำ 25 ลุ่มน้ำ ลุ่มน้ำใหญ่ๆ 5-6 ลุ่มน้ำ อาทิ ลุ่มน้ำปิง ลุ่มน้ำวัง ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่าน ส่วนลุ่มน้ำที่ยังไม่มีการบริหารจัดการลุ่มน้ำคือ ลุ่มน้ำยม เมื่อน้ำจากป่าเขาไหลลงมาก็จะทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ กรมชลประธานได้สำรวจเรื่องนี้มา เมื่อ 29 ปีที่แล้ว สมควรที่จะต้องมีอ่างเก็บน้ำหรือที่เก็บน้ำเอาไว้ตอนบนแต่ถูกต่อต้านมาตลอด จากเดิมพื้นที่ทั้งหมดทั้งอ่างเก็บน้ำและพื้นที่ที่จะอพยพผู้คนจำนวน 41, 000 ไร่ ปัจจุบันป่าหายไป 31,000 ไร่แล้ว การที่สร้างเขื่อนไม่สามารถรักษาป่าไว้ได้ อีกไม่กี่ปีข้างหน้าป่าก็จะหมดไปมากกว่าพื้นที่อ่างเก็บน้ำที่เราต้องใช้ เพราะฉะนั้นจะแก้ปัญหานี้อย่างไร จะแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ทั้งสภาพคนสภาพป่าสภาพภูมิประเทศตลอดจนต้นน้ำลำธารได้อย่างไร เราไม่คิดเพียงจะสร้างอ่างอย่างเดียว มีป่าต้นน้ำพอไหมที่จะซับน้ำไม่ให้ดินถล่มลงมาเต็มอ่าง ถ้าข้างบนไม่มีต้นไม้เลย ไม่กี่ปีอ่างก็เต็มไปด้วยดิน ถ้าสร้างอ่างเก็บน้ำแล้วชาวบ้านเดือดร้อน คนที่ต้านการสร้างเขื่อนทั้งหลาย ท่านกินน้ำจากเขื่อนทุกคน ณ วันนี้ ท่านกินน้ำจากเขื่อน ศรีนครินทร์ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถ้าท่านต่อต้านการสร้างเขื่อนท่านต้องไม่กินน้ำเพราะน้ำทั้งหมดมาจากเขื่อน
ดร. รอยล จิตรดอน ผอ.สสนก. กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงโปรดที่จะทำพิพิธภัณฑ์ชีวิต คือทรงที่จะทำตัวอย่างพิสูจน์ให้เห็นจริง นั้นคือที่ไปที่มาของศูนย์ศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากที่พื้นที่สกลนครตอนนี้ประกาศเป็นภัยแล้งทุกอำเภอแต่จากที่ลงพื้นที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทำอ่างเก็บน้ำที่สกลนครหลายแห่ง มีระบบคลองส่งน้ำเชื่อมต่อกันหมด พระองค์ท่านรับสั่งในการแก้ปัญหาเรื่องน้ำจะทรงรับสั่งถามถึงโครงการที่ 30-40 ปี ที่แล้ว ว่ามันเป็นอย่างไร ในขณะซึ่งอย่างเรา เราจะพูดถึงโครงการใหม่ๆ เดินไปข้างหน้าอย่างเดียวไม่เรี่ยวหลังแต่พระองค์จะทรงรับสั่งตลอดถึงภาพการเปลี่ยนแปลงว่าถ้าเปลี่ยนไปแล้วฝนเปลี่ยนอย่างนี้จะบริหารอย่างไร นอกจากนั้นยังคงรับสั่งโครงการที่ผมจะยกตัวอย่างคือเขตป่าชุมชน ในขณะที่อีสานแล้งหมด สกลนครใต้อ่างลงมาก็มีระบบน้ำพอน้ำไม่พอแต่พอสำหรับทำส่วนพริก ในขณะที่อยู่ในสกลนครน้ำไม่พอทำนาก็เรียนรู้ที่จะทำพริกรายได้ดีกว่านา สิ่งที่พระองค์ท่านอยากทำจริงๆ จากศูนย์ศึกษาทำอย่างไรจะเกิดขึ้นจริง เพราะฉะนั้นความสำเร็จศูนย์ศึกษามีศูนย์ศึกษาที่ภูพานความสำเร็จที่ตามมา คือชีวิตที่ดีขึ้นของชาวสกลนคร สิ่งที่ชลประธานทำถวายพระองค์ท่าน จากเขื่อนน้ำอูนไหลลงมาแล้วต่อด้วยคลองลอย นี้คือแนวคิดการทำท่อที่ถูกต้องโดยใช้แรงโน้มถ่วง ของอย่างนี้คือพระองค์ท่านทำให้กับบุคลที่อยู่ในชนบท ศูนย์ศึกษาทุกศูนย์ประสบความสำเร็จหมดแต่คนละด้าน เขาหินซ้อนประสบความสำเร็จเรื่องฟื้นป่าขึ้นมาทำพื้นที่ ที่กลายเป็นทะเลทรายมาเป็นป่าให้กลายเป็นดิน ห้วยทรายแทบจะเป็นทะเลทรายทั้งหมดเลยใช้แฝกกับขึ้นมาเกิดระบบอ่างควง ห้องแล็บของพระองค์ท่านอยู่ที่ศูนย์ศึกษาแต่ประโยชน์อยู่ที่ชาวบ้าน เขาห้วยห้องใคร่พิสูจน์ให้เห็นว่าดินป่าน้ำ ต้องพัฒนาด้วยกัน การปลูกป่าโดย การใช้ฝายชะออความชุมชื่น การทำให้ป่าไม่ใช่แค่อนุรักษ์ เป็นป่าใช้งาน โครงการพระราชดำริแหลมผักเบี้ยหลังจากทำตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านปลูกป่าชายเลน บำบัดน้ำเสียเสร็จ สิ่งที่พบก็คือว่าแผ่นดินงอก เพราะฉะนั้นใครจะบอกว่าประเทศไทยมีปัญหาน้ำทะเลขึ้น ชายฝั่งถูกกัดเซาะ เราทำลายแนวกันชนของชายหาดคือป่าชายเลน สิ่งที่จังหวัดเพชรบุรีทำโครงการแหลมผักเบี้ย แผ่นดินงอกไปกว่า 700 กว่าไร่ จะเห็นได้ว่าทรงตามโดยตลอดและก็ทำจริง ให้เห็นจริง ในวันท่านประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช มีทีมงานของพระองค์ท่านไปไล่ถ่ายรูปทำลงบนแผนที่ถวายรายงายโดยตลอด รายงานทางอินเตอร์เน็ตก็ ยังถวายรายงานอยู่ตลอด ท่านทรงเป็นห่วงขณะติดตามความเร็วของลม ความเร็วของลมที่เพชรบุรี สูงขึ้นถึง 70 % กิโลเมตรต่อชั่วโมงสูงกว่าที่เคยเป็นมา
หัวใจของการจัดการน้ำโดยตรงชุมชนต้องเป็นคนจัดการเป็นเจ้าของโครงสร้างและต้องมีข้อมูลเพราะนั้น สิ่งที่เราทำการบันทึกข้อมูลแบบแนวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนมาตลอดแล้วจากข้อมูลจากแผนที่นำมาใช้บริหารน้ำได้สำเร็จ และทุกครั้งทีเราเกิดปัญหาเราไม่เคยดูย้อนกลับมาดูตัวเราเอง กลับไปดูที่ศูนย์และไม่เคยย้อนกลับไปดูแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเลย เราต้องจัดการน้ำให้พอดี การหาความพอ การหาความสมดุล เป็นสิ่งที่พระองค์ท่านสอนเรามาโดยตลอด
ท่านสามารถติดตามข่าวสาร การจัดเสวนา คุยกัน..ฉันท์วิทย์ ของกลุ่มงานประชาสัมพันธ์
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ที่ http://www.most.go.th/scitalk
สนับสนุนข้อมูลโดย : สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) สสนก.
ผู้เขียนข่าว : กมลวรรณ เอมสมบูรณ์
ผู้เผยแพร่ข่าว : ศิริลักษณ์ สิกขะบูรณะ
ภาพโดย : ชัชวาลย์ โบสุวรรณ
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี