ความเป็นมา
การจัดการทรัพยากรน้ำของชุมชนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มความเข้มแข็งและความมั่นคง ในการจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยมีชุมชนมากกว่า ๖ หมื่นชุมชน จึงนับเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสนับสนุนชุมชน
ให้มีการจัดการทรัพยากรน้ำที่มีประสิทธิภาพและประสานความร่วมมือเป็นเครือข่ายการจัดการทรัพยากรน้ำในระดับชุมชน
การสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีระบบบริหารจัดการตามแนวพระราชดำริ ที่นำไปสู่การพึ่งพาตนเองด้านทรัพยากรน้ำ รวมถึงเชื่อมโยงแนวทางการบริหารจัดการน้ำไปสู่ชุมชนอื่นๆ จนเกิดเป็นเครือข่ายการทำงานที่มีกระบวนการคิด ไตร่ตรอง ตัดสินใจ และลงมือทำร่วมกัน ภายใต้การบริหารจัดการของชุมชน และเพื่อนบ้าน รวมทั้งประสานการพัฒนากับหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบทั้งในระดับชุมชน และระดับประเทศ เพื่อไปสู่แนวทางการพัฒนาการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนได้ในที่สุด
ในปี พ.ศ. 2550 สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เริ่มต้นจัดงาน “ประกวดการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550” รับรางวัลถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับเป็นจุดเริ่มต้นการเกิดเครือข่ายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ซึ่งจัดมาแล้ว 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ในปี พ.ศ. 2550 จำนวน 18 ชุมชน ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2551 และครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2552 จำนวน 18 ชุมขน ซึ่งมีชุมชนรวมทั้งสิ้น 54 ชุมชน ที่ขยายผลเกิดเป็นชุมชนแม่ข่าย – เครือข่ายที่น้อมนำแนวพระราชดำริไปปรับใช้ จนประสบความสำเร็จในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน
โครงการพัฒนาระบบจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อความ�/a> from msciences on Vimeo.
ประกวดการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ จะจัดให้มีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ประกวดการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นในปี พ.ศ. 2553 ก็จะเป็นการขยายผลสำเร็จของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน และขยายเครือข่ายความร่วมมือในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนให้เพิ่มขึ้นต่อไป
วัตถุประสงค์
1) เพื่อให้เกิดบทเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ
2) เพื่อให้เกิดเครือข่ายการเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างชุมชน
3) เพื่อให้เกิดเครื่อข่ายความร่วมมือเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน
หลักการ
1) หน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เสนอชุมชนที่เคยมีความร่วมมือ และมีความพร้อมในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน หรืออาจเป็นชุมชนที่หน่วยงานได้พบเห็นหรือทราบว่ามีการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ เข้าร่วมประกวด
2) จำนวนชุมชนที่เข้าร่วมการประกวด ไม่เกิน 20 ชุมชน
คุณสมบัติของชุมชนที่เข้าประกวด
1) ชุมชนได้น้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
2) การจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนโดยการพึ่งตนเองของชุมชนเป็นหลัก
3) ชุมชนมีการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 ปี
4) มีเครือข่าย (ความรู้ ความร่วมมือ และปฏิสัมพันธ์) ที่ชัดเจนทั้งภายในและภายนอกชุมชน
5) มีศักยภาพในการขยายผลความสำเร็จของชุมชนไปยังชุมชนข้างเคียง
เกณฑ์การพิจารณาและประเมินผล
การพิจารณาและประเมินผลชุมชนที่เข้าประกวดการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ครั้งที่ 4 ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
แผนผังการพิจารณาและประเมินผลชุมชน
1. การคัดเลือก
หน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน หรือที่เกี่ยวข้อง เสนอชุมชนที่เคยมีความร่วมมือ และมีความพร้อมในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน หรืออาจเป็นชุมชนที่หน่วยงานได้พบเห็น หรือทราบว่ามีการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดส่งข้อมูลตามแบบฟอร์มที่กำหนด พร้อมรายงานผลการดำเนินงานและรูปภาพประกอบ เพื่อเป็นข้อมูลให้คณะทำงานพิจารณาคัดเลือกชุมชน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาและประเมินผล ดังนี้
1) ชุมชนที่ถูกเสนอชื่อเข้าร่วมการประกวด จะแบ่งเป็น 4 ภาค คือ
- ภาคเหนือ
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ภาคกลาง และภาคตะวันออก
- ภาคใต้
2) ชุมชนที่ถูกเสนอชื่อ จะนำเสนอผลดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน เพื่อให้คณะทำงานพิจารณาคัดเลือกชุมชนเข้ารอบ เพียง 20 ชุมชน (ภาคละ 5 ชุมชน)
เกณฑ์การคัดเลือก
ลำดับที่ | รายละเอียด | คะแนนเต็ม |
(1) | สภาพน้ำในชุมชน และปัญหาเรื่องน้ำของชุมชน (ก่อน) | แต้มต่อ |
(2) | การวางแผน และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน | 20% |
(3) | การดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ | 30% |
(4) | ผลสำเร็จ/การเปลี่ยนแปลง บรรลุเป้าหมาย | 30% |
(5) | ศักยภาพสู่เครือข่ายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืน | 20% |
3) ชุมชนที่ได้รับคัดเลือกเข้าประกวด รวม 20 ชุมชน จากทุกภาค จะต้องเป็นชุมชนที่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ตามแนวพระราชดำริ เกิดผลสำเร็จที่เห็นได้เป็นรูปธรรม และมีศักยภาพในการขยายเครือข่ายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้ชุมชนอื่นๆ
2. การประเมินผล
คณะกรรมการตัดสิน จะเข้าประเมินผลพื้นที่ของแต่ละชุมชน เพื่อสำรวจ และพิจารณาการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของชุมชน การประเมินผลชุมชนจะมีขึ้น 2 ครั้ง ดังรายละเอียดต่อไปนี้
• ครั้งที่ 1 การสำรวจพื้นที่จริง 20 ชุมชน ในเดือนสิงหาคม 2553
o สำรวจพื้นที่เบื้องต้น
o รับฟังการดำเนินงานในการจัดการทรัพยากรน้ำของชุมชน
• ครั้งที่ 2 การสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างชุมชน ทั้ง 20 ชุมชน ในเดือนกันยายน 2553
o ชุมชนชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ปีที่ 1 และ 2 ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์
o ชุมชนนำเสนอการดำเนินงานการจัดการทรัพยากรน้ำของชุมชน
o แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างชุมชน
เกณฑ์การประเมินผลครั้งที่ 1 และ 2
การพิจารณา : การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ
หัวข้อ | รายละเอียด | คะแนนเต็ม |
การวางแผนงานและจัดการของชุมชน | การน้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน | 30% |
การจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนโดยการพึ่งตนเองของชุมชนเป็นหลัก | ||
การดำเนินงาน | การปฏิบัติตามแผนงาน | 40% |
ความสามารถแก้ปัญหาที่เห็นผลชัดเจน | ||
การติดตาม และ การประเมินผลการดำเนินงาน | ||
ความต่อเนื่องและความยั่งยืน | ผลสำเร็จและการบรรลุเป้าหมาย | 30% |
เครือข่ายที่ชัดเจนทั้งภายในและภายนอกชุมชน | ||
ศักยภาพในการขยายผลความสำเร็จของชุมชน |
คณะกรรมการตัดสิน จะพิจารณาคัดเลือกชุมชนที่ผ่านการประเมินผล เข้าสู่การพิจารณาในรอบการตัดสินต่อไป
3. การตัดสิน
คณะกรรมการตัดสิน จะเข้าสำรวจพื้นที่จริงของชุมชนที่ผ่านเข้าสู่รอบการตัดสิน เพื่อพิจารณาผลการตัดสิน และผลรางวัลของแต่ละชุมชน
o สำรวจพื้นที่ดำเนินงานและผลการดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน
o ประเมินผลความยั่งยืนในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน
เกณฑ์การตัดสิน
การพิจารณา: ความยั่งยืนในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ
หัวข้อ | รายละเอียด | คะแนนเต็ม |
การวางแผนงานและจัดการของชุมชน | การน้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน | 30% |
การจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนโดยการพึ่งตนเองของชุมชนเป็นหลัก | ||
การดำเนินงาน | การปฏิบัติตามแผนงาน | 40% |
ความสามารถแก้ปัญหาที่เห็นผลชัดเจน | ||
การติดตาม และ การประเมินผลการดำเนินงาน | ||
ความต่อเนื่องและความยั่งยืน | ผลสำเร็จและการบรรลุเป้าหมาย | 30% |
เครือข่ายที่ชัดเจนทั้งภายในและภายนอกชุมชน | ||
ศักยภาพในการขยายผลความสำเร็จของชุมชน |
งานประกาศผล
ชุมชนที่เข้าร่วมประกวด ครั้งที่ 4 จะเข้าร่วมพิธีประกาศผล รวมทั้ง งานสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างชุมชน ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นภายในเดือนธันวาคม 2553
รางวัล
แบบถ้วยรางวัล
1. รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2. รางวัลรองชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
3. รางวัลชมเชยจะได้รับใบเกียรติบัตรแสดงความยินดี จาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานคณะกรรมการจัดงาน
หมายเหตุ: รางวัลเพิ่มเติมจากภาคเอกชนที่สนับสนุน
แผนการดำเนินงาน
พื้นที่ดำเนินงาน
ผลที่จะได้รับ
1) เกิดบทเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ
2) เกิดเครือข่ายการเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างชุมชน
3) เกิดเครือข่ายความร่วมมือเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน
หน่วยงานรับผิดชอบ : | สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) |
เลขที่ 108 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ ชั้น 8 ถนนรางน้ำ | |
แขวงถนนพญาไท ราชเทวี กรุงเทพ 10400 | |
โทรศัพท์ 0-2642-7132 | |
โทรสาร 0-2642-7133 | |
เว็บไซต์ http://www.haii.or.th/thailandwaterchallenge/ |
|
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |