9 มิถุนายน 2559 – โรงแรมดุสิตธานี: กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ Science and Technology in Society forum (STS forum) และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) จัดงานสัมมนาระดับภูมิภาค “ASEAN – Japan Workshop in Thailand: Innovation, Science, and Technology for Sustainable Development” เพื่อเป็นเวทีผนึกกำลังด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างมิติใหม่ของเวทีระดมความคิดนับแต่ก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อันจะเป็นกลไกเสริมในการริเริ่ม หารือและสร้างเครือข่ายแก้ไขปัญหาใหม่ๆ อันเป็นผลพวงจากการใช้งานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นการสานต่อความสำเร็จจากการจัดสัมมนาระดับภูมิภาค 2 ครั้งที่ผ่านมาที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย ในปี 2014 และ 2015 ตามลำดับ การสัมมนาที่กรุงเทพครั้งนี้นับเป็นการสัมมนาภายนอกญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 3 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจากกลุ่มประเทศอาเซียนและญี่ปุ่นเข้าร่วมสัมมนาและประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความร่วมมือทางด้านนวัตกรรมที่จะเชื่อมโยงระหว่างกลุ่ม SMEs และบริษัทระดับโลก (Global Company) ในการเข้าสู่ AEC และการพัฒนากำลังคนเพื่อยกระดับความร่วมมือและการแข่งขันด้วยการใช้นวัตกรรมระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและญี่ปุ่น
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การจัดงานสัมมนาในครั้งนี้มีผู้นำของโลกและผู้ที่เคยได้รับรางวัลโนเบลไปจนถึงนักวิทยาศาสตร์ใหม่ๆมาร่วมหารือโดยในปีนี้ได้เน้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ประกอบกับประเทศไทยในปีนี้ได้รับเกียรติให้เป็นประธานของกลุ่ม G77 ซึ่งชูธงไปทิศทางของการพัฒนาที่ยั่งยืนเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ในระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะผสานนวัตกรรมและรวมพลังระหว่างญี่ปุ่นกับอาเซียนผ่านโครงการ Food Innopolis, Thailand Startups เพื่อสร้างฐานและผสมผสานในการสร้าง Startup ของอาเซียน นอกจากนี้ยังมีโครงการ Talent Moblity ช่องทางขยายไปสู่ ASEAN Talent Mobility ด้านการพัฒนากำลังทรัพยากร รวมถึงโครงการคุณภาพ วทน. แห่งชาติ ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาไปสู่โครงสร้างพื้นฐานคุณภาพระดับอาเซียน เพื่อให้อาเซียนพัฒนาไปร่วมกันและสร้างความเป็นหนึ่งในด้านเศรษฐกิจ
ดร.พิเชฐ กล่าวต่อว่า การจัดสัมมนาดังกล่าวถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในอนาคตของทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จะเป็นกำลังสำคัญในการทำให้ทั้งภูมิภาคมีความเข้มแข็งและมั่นคงและประเทศไทยจะมีขีดความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อที่จะก้าวผ่านประเทศที่มีกับดักรายได้ปานกลางต่อไป
นายโคจิ โอมิ ประธานและผู้ก่อตั้ง STS Forum กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้ประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ประเทศญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่างเห็นความสำคัญดังกล่าว STS Forum ให้ความสำคัญกับบทบาทการเป็นพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค และการสัมมนาระดับภูมิภาคครั้งนี้เป็นนิมิตรหมายอันดีที่ผู้บริหารระดับสูงจากญี่ปุ่นและกลุ่มชาติอาเซียนจะได้พบปะ เพื่อริเริ่ม แลกเปลี่ยนทัศนะด้านการกำหนดนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และธุรกิจ พร้อมทั้งมีเป้าหมายให้ประเทศญี่ปุ่นและอาเซียนจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในกิจการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าในอนาคต โดยที่ผู้ร่วมสัมมนาที่มาร่วมงานนี้บางท่านเดินทางไปร่วมการประชุมประจำปีที่เกียวโต ในเดือนตุลาคมนี้
ที่มาข้อมูล ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
e-mail : อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน Facebook : NSTDATHAILAND
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3727 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
อีเมลล์ : อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน