สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)(สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผย 2 นักดาราศาสตร์ไทยร่วมนาซาค้นพบการเกิดดาวเคราะห์คล้ายโลกในระบบดาวฤกษ์ที่เพิ่งเกิดใหม่ เก็บข้อมูลวิจัยร่วมกับกล้องโทรทรรศน์สปิตเซอร์ของนาซา ชี้เป็นการค้นพบครั้งแรกของโลกที่จะช่วยยืนยันทฤษฎีการเกิดดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ เล็งขยายเครือข่ายวางโครงสร้างดาราศาสตร์เพิ่มที่จีนและออสเตรเลีย หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงจากชิลี
ภาพจำลองแสดงการชนกันของดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่รอบ NGC2547-ID8
Image Credit : NASA/JPL-Caltech
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หนึ่งในทีมวิจัยเปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา วารสาร Science ได้ตีพิมพ์บทความที่น่าสนใจมากในวงการดาราศาสตร์ เมื่อกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ ซึ่งเป็นกล้องอินฟาเรดของนาซาพบการระเบิดของฝุ่นรอบ NGC2547-ID8 ซึ่งเป็นดาวฤกษ์อายุน้อยคล้ายดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะอื่น ที่มีอายุเพียง 35 ล้านปี เป็นไปได้ว่าจะเกิดจากการชนกันของดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่รอบดาวฤกษ์อายุน้อยดังกล่าว การชนกันของดาวเคราะห์น้อยลักษณะนี้นำไปสู่การก่อตัวของดาวเคราะห์ดวงใหม่เช่นเดียวกับการเกิดดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเราในอดีต
ทีมวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย ฮวน เม็ง/ เคท ซู และ จอร์จ ริกี จากมหาวิทยาลัยอริโซนา เดวิด สตีเฟนสัน จากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ปีเตอร์ ฟาลฟ์สัน จากนาซา แครี่ ลิส จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ แดเนียล ไรชาร์ต จากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ณ แชพเพิลฮิลล์ และ 2 นักดาราศาสตร์ไทย ดร.วิภู รุโจปการ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นักดาราศาสตร์ไทยมีส่วนร่วมในการค้นพบครั้งนี้โดยใช้กล้อง PROMPT ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ในช่วงคลื่นแสงที่ตามองเห็นเก็บข้อมูลกราฟแสงของดาวฤกษ์เพื่อยืนยันการค้นพบดังกล่าว กล้อง PROMPT เป็นกล้องโทรทรรศน์ทางไกลอัตโนมัติซีกฟ้าใต้ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สดร. กับ มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ณ แชพเพิลฮิลล์ สหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ ณ หอดูดาวอินเตอร์อเมริกัน เซอร์โร โทโลโล (Cerro Tololo Inter-American Observatory : CTIO) สาธารณรัฐชิลี ผลการวิจัยพบว่ามีการระเบิดขึ้นจริงบริเวณรอบ ๆ ดาวฤกษ์ดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกของโลกที่ตรวจพบการระเบิดในลักษณะเช่นนี้คาดว่าน่าจะเกิดการชนกันของดาวเคราะห์น้อยที่โคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ดังกล่าว สนับสนุนทฤษฎีการเกิดดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเราในอดีต เกิดจากการชนกันของของดาวเคราะห์น้อย จนนำไปสู่การก่อตัวเป็นดาวเคราะห์หินแข็งเช่นเดียวกับ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร หรือโลกของเรา เป็นต้น
รองศาสตราจารย์บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า ผลงานการค้นพบดังกล่าวสร้างความตื่นตะลึงในหมู่นักดาราศาสตร์เป็นอย่างมาก เป็นข้อมูลการค้นพบใหม่ทางดาราศาสตร์อันเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขปัญหาด้านทฤษฎีการเกิดดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยที่มีส่วนร่วมในงานวิจัยชิ้นนี้ นอกจากจะนำมาซึ่งผลงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อวงการดาราศาสตร์แล้ว ยังนำไปสู่การสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านดาราศาสตร์กับนานาประเทศ ทั้งนี้ สดร. ยังมุ่งมั่นที่จะผลิตนักวิจัยและผลงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ ไปกับการวางโครงสร้างพื้นฐานทางดาราศาสตร์เพื่อใช้ศึกษาค้นคว้าวิจัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนอกจากกล้องโทรทรรศน์ทางไกลอัตโนมัติซีกฟ้าใต้ ณ สาธารณรัฐชิลีแล้ว สดร. ยังมีแผนการดำเนินงานในอนาคตที่จะขยายเครือข่ายเพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานทางดาราศาสตร์ในลักษณะเดียวกันนี้ที่ประเทศจีนและออสเตรเลียในเวลาอันใกล้นี้อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.nasa.gov/press/2014/august/nasas-spitzer-telescope-witnesses-asteroid-smashup/
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
โทร. 053-225569 ต่อ 210, 081-8854353 โทรสาร 053-225524
Call Center กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.1313
E-mail:
อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน
/ Website : www.narit.or.th
Facebook : www.facebook.com/NARITpage / Twitter: @N_Earth
twitter: @N_Earth
ผู้เผยแพร่ข่าว : นายปราโมทย์ ป้องสุธาธาร กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ